น้ำเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และระบบนิเวศ แต่ในปัจจุบันเราพบว่าทรัพยากรน้ำกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนและคุณภาพที่เสื่อมโทรมลงในหลายพื้นที่ทั่วโลก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการใช้น้ำอย่างไม่มีประสิทธิภาพและขาดความตระหนักถึงผลกระทบดังนั้น แนวคิดเรื่อง “Water Footprint” หรือ “รอยเท้าน้ำ”จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการวัดปริมาณการใช้น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อมของผู้บริโภค ผู้ผลิต หรือแม้กระทั่งประเทศ เพื่อนำไปสู่การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
ความหมายของ Water Footprint
Water Footprint หมายถึง ปริมาณน้ำจืดทั้งหมดที่ถูกใช้ในการผลิตสินค้าและบริการที่บุคคล ธุรกิจ หรือประเทศบริโภค โดยพิจารณาตลอดห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่การใช้น้ำโดยตรงเท่านั้น แต่รวมถึงการใช้น้ำทางอ้อมด้วย เช่น น้ำที่ใช้ในการผลิตอาหาร เสื้อผ้า หรือสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
องค์ประกอบของ Water Footprint
Water Footprint ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1.Blue Water Footprint : ปริมาณน้ำจืดจากแหล่งน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินที่ถูกใช้ในกระบวนการผลิต เช่น น้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม หรือการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน
2.Green Water Footprint : ปริมาณน้ำฝนที่ถูกเก็บกักไว้ในดินและถูกใช้โดยพืช ซึ่งมีความสำคัญมากในภาคการเกษตร
3.Grey Water Footprint : ปริมาณน้ำที่ต้องใช้ในการเจือจางมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิตให้กลับมามีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด
ความสำคัญของ Water Footprint
การคำนวณและเข้าใจ Water Footprint มีความสำคัญหลายประการ ดังนี้
1.ช่วยให้เราเข้าใจถึงปริมาณการใช้น้ำที่แท้จริง : Water Footprint ทำให้เราเห็นภาพรวมของการใช้น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งช่วยให้เราตระหนักถึงผลกระทบของการบริโภคที่มีต่อทรัพยากรน้ำ
2.เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ : ข้อมูล Water Footprint สามารถนำไปใช้ในการวางแผนและกำหนดนโยบายการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับองค์กร ชุมชน และประเทศ
3.ส่งเสริมการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน : การรู้ Water Footprint ของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนากระบวนการผลิตที่ประหยัดน้ำมากขึ้น
4.สร้างความตระหนักเรื่องการใช้น้ำ : Water Footprint ช่วยให้สังคมเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์น้ำและใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
การคำนวณ Water Footprint
การคำนวณ Water Footprint สามารถทำได้ในหลายระดับ ตั้งแต่ระดับบุคคล ผลิตภัณฑ์ องค์กร ไปจนถึงระดับประเทศ โดยมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไปตามความซับซ้อนและขอบเขตของการศึกษา แต่โดยทั่วไปจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.การใช้น้ำโดยตรง : ปริมาณน้ำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การอุปโภคบริโภค การทำความสะอาด
2.การใช้น้ำทางอ้อม : ปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิตอาหาร เสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ ที่เราบริโภค
3.แหล่งที่มาของน้ำ : พิจารณาว่าน้ำที่ใช้มาจากแหล่งใด เช่น น้ำฝน น้ำผิวดิน หรือน้ำใต้ดิน
4.ผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ : ปริมาณน้ำที่ต้องใช้ในการบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ
ธนพล ธนากรโยธิน
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพชีวภาพ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี