“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กางปีกไล่จิก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในเกมบิ๊กแมทช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แอนฟิลด์ จากสกอร์ของ โคดี้ กัคโป นาทีที่ 12 และจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 78 นำจ่าฝูงต่อไป หลังจากผ่านระยะทาง 1 ใน 3 ของฤดูกาล

ลิเวอร์พูล มีสถิติในลีก ชนะ 11 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 34 คะแนน นำสองทีมดังจากลอนดอน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล กับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ทีมอันดับ 2 และ 3 ไปแล้ว 9 คะแนน ส่วน ซิตี้ หล่นไปอยู่ที่ 5 ห่าง ลิเวอร์พูล ไป 11 คะแนน จาก 13 เกมแรก ของฤดูกาล พวกเขาเก็บคะแนนไม่ได้เลย 4 นัดติดต่อกัน หลังจากเป็นจ่าฝูงเมื่อแมทช์เดย์ที่ 9

อย่างไรก็ตามหลังเกมการแข่งขัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำสถิติทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกันสูงสุดในยุคพรีเมียร์ลีก ทำได้รวม 36 นัด ยืนหนึ่งเท่ากับ เวย์น รูนี่ย์ อดีตตำนานกองหน้าแมนฯยูไนเต็ด ได้กล่าวเรื่องสัญญาฉบับใหม่ที่ยังไม่ได้ต่อ ว่า พูดตามตรง เรื่องสัญญามันอยู่ในหัวของผม จนถึงตอนนี้ นี่อาจเป็นเกมสุดท้ายของผมในการเจอกับ ซิตี้ ในฐานะนักบอลลิเวอร์พูล ดังนั้นผมจึงแค่จะสนุกกับมัน

“บรรยากาศมันสุดยอดมาก ดังนั้นผมจะสนุกกับทุกวินาทีที่นี่หวังว่าเราจะคว้าแชมป์ลีกและรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันพิเศษมาก ผมเคยบอกไปแล้วว่า แอนฟิลด์ คือรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเกิดผม”

ทางด้าน อาร์เน่อ ชล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล กล่าวว่ามันเกือบจะเป็นแมทช์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งผมคิดว่ามันจะสมบูรณ์แบบมาก หากเราไม่พลาดโอกาสมากมาย ส่งผลให้เกมต้องจบลงแบบสูสีแบบนี้

“สถานการณ์น่าจะดีกว่านี้ ถ้าเรายิงประตูที่สองได้เร็วกว่านี้เกมนี้เราเพรสซิ่งสูง แต่ ซิตี้ ก็สร้างเกมได้ดีมาก ดังนั้นคุณต้องทำงานหนักมาก นักเตะของเรามีพลังงาน นอกจากนักเตะของเราแล้ว แฟนบอลก็ยอดเยี่ยมมากในวันนี้เช่นกัน พวกเขามีพลังจริงๆ”

“เวลานี้เราเป็นทีมที่เข้ากันได้ดีและเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะเราได้ แต่เรายังต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ด้วย เวลานี้เรามีผู้เล่นบาดเจ็บ เราต้องถอด เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ออกมา เพราะมันเสี่ยงมาก นี่คือความท้าทายที่เราต้องเผชิญในขณะนี้ แต่ทุกทีมต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ตลอดทั้งฤดูกาล”

กุนซือหงส์ กล่าวต่อไปว่า ผมไม่คิดว่าใครก็ตาม รวมถึงผมด้วย จะคาดเดาถึงการเริ่มเกมแบบนี้ได้ ผมรู้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกจากทีมไปในจุดที่ดีมาก แต่ถึงอย่างนั้น การชนะมากมายขนาดนี้กับทีมที่เล่นยากอยู่แล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะคาดเดาได้ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล

ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ กล่าวว่า เราอาจจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ สถานการณ์ ณ เวลานี้มันทำให้เราต้องคิดแบบนั้น เรายอมรับ และดูกันต่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้

แมนฯ ซิตี้ หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยการแพ้บอลลีก 4 เกมติดต่อกันในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 นอกจากนี้ พวกเขายังไม่ชนะเลย 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่าตลอดช่วง 8 ปีของการทำงานที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน เป๊ป มีปัญหาในการทำนิ้ว 6 นิ้วให้กับแฟนบอลลิเวอร์พูล ที่ตะโกนว่า เขาจะถูกไล่ออกจากตำแหน่งในเช้าวันพรุ่งนี้ โดยสัญลักษณ์ 6 น่าจะมาจากการที่เขาคุมทีม 8 ปีได้แชมป์ลีก 6 สมัย

“ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ที่แอนฟิลด์ ผมไม่ได้คาดหวังแบบนั้นจากคนลิเวอร์พูล แต่ไม่เป็นไร มันเป็นส่วนหนึ่งของเกม
และผมเข้าใจดี ที่ผ่านมาเราต่อสู้กันอย่างเหลือเชื่อ ผมเคารพพวกเขา ผมประหลาดใจตรงที่ทุกสนามต้องการไล่ผมออก มันเริ่มต้นที่ไบรท์ตัน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งบางทีพวกเขาอาจจะคิดถูกเกี่ยวกับผลงานของเรา”

ทางด้าน รูเบน อโมริม เริ่มต้นคุมทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าชัยในบอลลีกถิ่นตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการไล่ต้อน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ไปแบบสบายแข้ง 4-0 อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องรอทดสอบความฟิตของ บรูโน่ เฟอร์นานเดส กัปตันทีมชาวโปรตุเกส ที่มีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย ต้องประคบน้ำแข็ง

บรูโน่ วัย 30 ปี โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเมื่อแอสซิสต์ 2 ครั้ง ทำให้กลายเป็นนักบอลโปรตุเกสที่แอสซิสต์มากที่สุดของพรีเมียร์ลีก รวม 46 ประตู แซงหน้า แบร์นาร์โด้ ซิลวา ของแมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว แต่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 66 โดยมีภาพที่เขานั่งพร้อมกับถุงน้ำแข็งรัดอยู่ที่ข้อเท้า ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับแฟนบอลไม่น้อย เพราะเกมต่อไป แมนฯยูไนเต็ด ต้องไปเยือน อาร์เซน่อล ในวันพุธนี้

สำหรับเกมนัดต่อไป แมนยูฯ จะไม่มีทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ ค็อบบี้ เมนู ที่่ติดโทษแบน