เคี่ยว & เขี้ยว!!! จับ 4 ประเด็น‘ชล็อตบอล’ ชนะ 6 นัดUCL
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดที่ 6 ที่เอสตาดี้ มอนติลิบี้ จ่าฝูง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ชนะมา 6 เกมรวดไปเยือน ชนะ จีโรน่า บนแผ่นดินสเปน 1-0 จากจุดโทษของ โม ซาลาห์ นาทีที่ 63
หงส์เตะถ้วยบิ๊กเอียร์ เยือนทีมสเปน 17 ครั้ง ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 6
นัดแรกคือ 2 พฤศจิกายน 1983 ชนะ แอธเลติค บิลเบา 1-0
ไม่เสียประตู 5 เกม ยิงไม่ได้ 6 เกม
ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล ฟอร์มแจ่มสุด ๆ ชนะ 6 เกมรวดมี 18 คะแนนเต็ม ตรงข้ามกับ เจ้าบ้านที่ ชนะ 1 แพ้ 5 มีแค่ 3 คะแนน
เจ้าบ้านเน้นเกมรับ แต่พอสวนกลับก็ไม่ค่อยเป็นพิษ ส่วนใหญ่แนวรุกจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นี่คือ 4 ประเด็นกับเกมนี้ที่ “หงส์แดง” บุกคว้าชัยที่แดนกระทิงดุ
****************************
1. วิธีการเล่นที่ตั้งธงลงไป
เกมนี้ลิเวอร์พูลเล่นเหมือนเรียกแมตช์ฟิตหลายจังหวะที่เล่นแล้วอาศัยการครองบอลเป็นหลักไม่มีการเข้าปะทะ ไม่มีการเข้าหนัก ซึ่งน่าสนใจมากวิธีนี้ เพราะว่ามันเป็นการเล่นแบบถนอมตัวทั้งที่นี่เป็นหนึ่งในเกมใหญ่อย่างแชมเปียนส์ลีก
การใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามมันเหมือนเป็นการเสี่ยงแต่ไม่ให้ทุกคนเล่นด้วยความเสี่ยง เป็นวิธีคิดและเป็นวิธีทำอีกวิธีหนึ่งที่แปลกดี
เมื่อได้ประตูก็ล็อกสเปคทันที เป็นครั้งหนึ่งที่เห็นได้ว่าเน้นสุดสุดก็คือเรื่องของผลการแข่งขันไม่ได้สนใจว่าจะชนะเท่าไหร่ แฟนบอลจะชอบสไตล์หรือไม่ แต่ตำราพิชัยสงครามแบบนี้มันนำไปสู่ซึ่งชัยชนะในแต่ละเกม
มันไม่ใช่เป็นการเอาตัวรอด แต่เป็นชัยชนะมาจากการวางแผน
****************************
2.การกลับมาของ‘อลิสซอน’
ถือเป็นความ "ชัดเจน" ของ ชล็อต ที่บอกมาตลอดว่า ถ้า อลิสซอน เบ๊คเกอร์ ฟิตคือมือ 1 ทันที!!!!!
กองหลังชุดนี้อยู่กันมานาน เทรนท์-โจ โกเมซ-เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
เท่ากับว่า เบ๊คเกอร์ และไลน์โฟร์ชุดนี้ ได้สตาร์ทร่วมกันครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หรือ 656 วันเลยทีเดียว
อลิสซอน เบ๊คเกอร์ ยึดมือ 1 หายเจ็บแฮมสตริง ได้เฝ้าเสาเป็นนัดแรกตั้งแต่ 5 ตุลาคม2024 โชว์เซฟสำคัญ ๆ 5 ครั้ง
ตรงกันข้ามก็เช่นกัน เปาโล กาซซานิก้า อดีตนายขประตูสเปอร์ส ก็เซฟอุตลุดเช่นกัน ด้วยการปฏิเสธลูกยิงของ ดาร์วิน นูนเยซ แบบซ้ายทีขวาที, ลูกยิงของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และลูกยิงทั้งโอเพ่นเพลย์ กับ ฟรีคิกของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
ผู้รักษาประตูของทั้งสองทีมทำให้เกมมันไม่ขาด เกมยังอยู่ เพราะผลงานดีมาก โดยเฉพาะ เบ็คเกอร์ ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้า เป็นมาตรฐาน
ส่วน กาซซานิก้า คืนนี้เล่นดีเหลือเชื่อจากฟอร์มโดยรวมตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาเพราะช่วงต้นซีซั่นเนี่ย ผิดพลาดเยอะ
****************************
3.ลิเวอร์พูลบุกจริง ๆ รอบเดียว
เกมนี้ลิเวอร์พูล ครองบอลน่าสนใจมากยุทธวิธีในการเล่นก็คือทำเกมรุกจากสามกองหลังยืนทำฉาก นั่นก็คือซ้าย โรเบิร์ตสัน, กลาง เฟอร์จีลฟาน ไดจ์ค, ขวา โจ โกเมซ แล้วให้ เทรนท์ ขึ้นมาปักหลักยืนกลางคู่กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ช ส่วนที่เหลือเคลื่อนตัวไปเรื่อยเป็นแบบนี้ตลอดทั้งเกม เพราะรู้ว่าเจ้าบ้านตั้งเกมรับลึก และรับอย่างมีวินัย
นี่ถือเป็นครั้งแรกแรกของฤดูกาลนี้ด้วยที่ลิเวอร์พูลใช้มิดฟิลด์สองคนเล่นกว้างมากทั้ง เคอร์ติส โจนส์ และโดมินิค โซโบสไล
การครองบอลแบบนี้มันเกิดตั้งแต่ต้นครึ่งแรกแล้วนักบอลลิเวอร์พูลทั้ง 10 คนหันหน้าเข้าประตูคู่แข่งขณะที่จีโรน่าทั้ง 10 คนหันหลังให้ประตู
ภาพจำเกมนี้เป็นแบบนี้
เอาก็จริงก็คือลิเวอร์พูลบุกหนักรอบเดียวครับก็คือช่วงหลังจากผ่าน 10 นาทีแรกของครึ่งหลังซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าบ้านค่อนข้างที่จะลุยหนักมากแล้วลิเวอร์พูลครองบอลอยู่ประมาณเกือบ 10 นาทีจนกระทั่งค่อยค่อยเจาะเข้าไปในพื้นที่เขตโทษจน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เสียสมาธิ ไปทำฟาวล์ ลุยส์ ดีอาซ เป็นที่มาของการได้ประตู
ผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศส ได้รับสัญญาณจากห้องวีเออาร์ แล้วไปดูแค่แปปเดียวรู้เรื่อง ก่อนที่ โม ซาลาห์ จะสังหารเข้าไป
เอาเข้าจริงจังหวะนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ลิเวอร์พูลเดินเครื่องหนักมาก ที่เหลือหลังจากนั้นเล่นเขี้ยวและเคี่ยวสุด ๆ
ผมแบ่งสัญลักษณ์แห่งความเคี่ยว ค.ควาย และเขี้ยว ข.ไข่ เพื่อความชัดเจน
1.การครองบอลเอาไว้กับตัวให้นานที่สุด
2.หลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้มากที่สุด
และ 3.ใช้กำลังให้น้อยที่สุด
********************************
ปิดท้าย 4. ตัวเลขที่สุดสวยในยูซีแอล
ลิเวอร์พูล ชนะ 6 เกมรวด มี 18 คะแนนเต็ม ยิงได้ 13 เสียแค่ประตูเดียว นั่นคือประตูแรกสุดในเกมแรกกับ มิลาน
ซาลาห์ ทำประตูที่ 50 ในการเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ การยิงลูกโทษสมบูรณ์แบบมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและเทคนิค
ซาลาห์ อยู่อันดับ 5 ดาวยิงตลอดกาลของสโมสร ทำไปแล้ว 227 ลูก ตามหลัง บิลลี่ ลิดเดลล์ เหลือแค่ประตูเดียวเท่านั้น โดยอันดับ 1 เอียน รัช 346 ประตู, อันดับ 2 โรเจอร์ ฮันท์ 285 ประตู และ 3.กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน 241 ประตู
อลิสซอน เบ๊คเกอร์ คลีนชีตเป็นเกมที่ 21 ในแชมเปี้ยนส์ลีก ทำสถิติเท่ากับ เปเป้ เรน่า แต่ อลิสซอน เล่นมากกว่า 3 เกมคือ 49 นัด กับ 46 นัด
อาร์เน่อ ชล็อต บอกว่าอาจจะไม่ค่อยพอใจฟอร์มการเพรสซิ่งของนักเตะเท่าไหร่นัก
“ผมชอบวิธีการนำบอลมาจากแนวหลัง แต่เราควบคุมเกมทั้งหมดไม่ค่อยได้ เรามีเกมรุกที่ไม่มากพอ และเราทำช้าเกินไป ทำให้พวกเขาลงไปรับกันแน่นไปหมดจนเราหาทางขึ้นบอลไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วเราทำได้ดี และเราทำในสิ่งที่เหลือเชื่อก็คือ ชนะทุกนัดในแชมเปี้ยนส์ลีก”
ชล็อต พูดถึง นูนเญซ ว่า สิ่งที่ผมเห็นด้วยคือเขาพลาดโอกาสไปหลายครั้ง จากนั้นคำถามก็เกิดขึ้นเสมอว่า นี่เกี่ยวข้องกับความมั่นใจที่ค่อนข้างต่ำ หรือเป็นสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ สำหรับผมแล้วคิดว่ากองหน้าทุกคนทั่วโลกต่างก็มีช่วงเวลาที่ทุกลูกเข้าประตู และบางครั้งเขาก็มีช่วงเวลาที่คุณพยายามอย่างหนักแต่ไม่สามารถทำประตูได้ สิ่งดีๆ ก็คือเรามีผู้เล่นหลายคนที่สามารถทำประตูให้เราได้ วันนี้ โม ทำได้อีกครั้ง
“จากใจผมก็คือ ผมอยากเห็นดาร์วินทำประตูมากเพราะผมคิดว่ากองหน้าทุกคนต้องการทำประตู และจำเป็นต้องทำประตู นั่นคือเหตุผลที่ผมให้เขาอยู่ในสนามเป็นเวลานาน เขาคุกคามคู่แข่งได้ดีมาก เป็นประโยชน์ แต่โชคไม่ดีที่เขาทำประตูไม่ได้”
ทางฝั่ง เบ๊คเกอร์ บอกว่า มันเป็นการกลับมาที่ยอดเยี่ยมมาก เขามองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มาตลอด 9 สัปดาห์ที่ไม่ได้ลงสนาม เขาทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้กลับมา ผมซ้อมหนักเพื่อให้กลับมา และมีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมไม่เสียประตู และทีมชนะคือสิ่งที่ดีมาก ๆ
ลิเวอร์พูล เล่นได้อย่างเหลือเชื่อมาก ๆ และออกนำ 2 ลีกอยู่เหมือนเดิม ด้วยมาตรฐานการเล่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง คนละทิศกับความคิดเมื่อตอนที่ อาร์เน่อ ชล็อต เข้ามาทำงาน
แต่เส้นทางยังเหลืออีก 2 ใน 3 ของฤดูกาลที่ได้ลุ้นกันต่อไป
#บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี