เรื่องของทีมหัวตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพลานี้ แทนที่จะเป็นการบดกันของ เต็ง 1 กับ เต็ง 2 ก่อนเปิดซีซั่นเป็นภาค 3 อย่าง แมนฯซิตี้ กับ อาร์เซนอล

จู่ ๆ กลับตาลปัตรและรองจ่าฝูงเวลานี้ยังคงแรงขึ้นมาเรื่อย ๆ นั่นคือ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่เพิ่งเปิดบ้านงาบ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด 2-1

ว่ากันตามตรง เชลซี กลับมาอยู่ในที่ที่พวกเขาสมควรจะอยู่ หลังจากยืนหยัดอยู่ในยุคเปลี่ยนถ่าย “บิ๊กโฟร์” มาเป็น “บิ๊กซิกซ์” แต่หลังจาก โรมัน อบราโมวิช ต้องถูกบังคับออกไปจากเกาะอังกฤษ

เชลซี มักจะ “ซิค” มากกว่า “ซิกซ์”

มาในตอนนี้ เชลซี มีคะแนนตามหลัง ลิเวอร์พูล เหลือ 2 แต้ม แม้จะเล่นน้อยกว่า 1 เกม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

เพราะอันที่จริงแล้ว เชลซี จะขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ในนัดต่อไปทันที หากพวกเขาเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ในสุดสัปดาห์หน้า โดยมีโปรแกรมเตะก่อน “หงส์แดง” จ่าฝูงจะเดินทางไปยังท็อตแนม ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

จะแซงได้หรือไม่ได้ แต่มันส่งความกดดันได้อย่างชัดเจนด้วยฟอร์มการเล่นที่มั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งผู้เล่นตัวจริง,​ แทคติค และเข้าใจในแนวทางของโค้ช

ตอนนี้ เชลซี อยู่ที่ 2 มีแต้มนำ อาร์เซนอล ที่อยู่อันดับ 3 อยู่ 4 แต้ม และมากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าอยู่ 7 แต้ม โดยพวกเขาชนะเกมลีกมา 5 เกมติดต่อกันและไม่แพ้ใครมา 10 เกมรวด

ลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กลายเป็นทีมที่สร้างความสนุกและบันเทิงให้กับแฟนบอลตังเองได้มากที่สุดของพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ หลังจาก ซัดไปแล้ว 37 ประตู มากกว่า ท็อตแนม 1 ประตูในพรีเมียร์ลีก

เชลซี ทำประตูได้ถึง 66 ประตูจาก 25 เกมในทุกรายการในฤดูกาลนี้ ซึ่งมากกว่าที่พวกเขาทำได้ตลอด 50 เกมในฤดูกาล 2022-23 ถึง 16 ประตูด้วยกัน

ก่อนวันอาทิตย์จะเริ่มขึ้น เชลซี ทำประตูได้เฉลี่ย 2.66 ประตูต่อเกม ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ในหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ไม่ใช่แค่บางคนไปมองว่า หนึ่งในการ “ยิงเยอะ” รวมทุกรายการ เพราะว่า เชลซี ต้องเล่นในคอนเฟอเรนซ์ ลีก หรือบอลยุโรป ระดับ 3 แต่สิ่งที่มันแฝงอยู่ในการทำประตูจนเป็นนัยยะสำรคัญก็คือ เชลซี เป็นผู้นำในด้านอัตราการเปลี่ยนจังหวะการยิงประตูในบรรดาทีมที่อยูท็อปโฟร์ของลีกอีกด้วย

ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของทีมอยู่ที่ 23.9 ปี ซึ่งน้อยกว่าลิเวอร์พูล (26.5), อาร์เซนอล (26.8) และแมนเชสเตอร์ซิตี้ (27.8) แชมป์เก่า

สถิติระบุว่า ไม่มีทีมใดเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยอายุเฉลี่ยของผู้เล่นตัวจริงต่ำกว่า 25 ปี และมีเพียง 3 ทีมเท่านั้นที่ทำได้ด้วยอายุต่ำกว่า 26 ปี

ประกอบด้วย เชลซีในฤดูกาล 2004-05, แบล็คเบิร์นโรเวอร์สในฤดูกาล 1994-95 และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1995-96

แต่ต้องไม่ลืมว่า “ประเด็นหลัก” ของ เชลซี ปีนี้ไม่ใช่ทีมเต็งแชมป์ พวกเขาต้องการกลับมาตั้งหลักให้ได้ในระดับท็อปโฟร์ หลังจากเป๋มาและคลำทางอยู่นานถึง 2 ซีซั่น

น่าสนใจเพราะตำแหน่งจ่าฝูงและรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เวลานี้ ไม่ใช่ทีมที่ “มีเป้าหมาย” หรือ “เป็นตัวเต็ง” ในการเป็นทีมลุ้นแชมป์ตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่น

แต่ผ่าน 1 ใน 3 กลับกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่เป้าอยู่ท็อปโฟร์ ยึดจ่าฝูง และรองจ่าฝูงคือ เชลซี ที่เป้าหมายคือท็อปโฟร์บาง ๆ แต่เป็น บิ๊กซิกซ์ เข้ม ๆ

นาทีนี้ระยะห่างระหว่างกันน่าสนใจมาก ๆ

จนอาจปฏิเสธยากหน่อยว่า ในใจแอบคิดอะไรกันไปบ้าง.....เนอะ!!!!!!

บี แหลมสิงห์