การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 17 ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 มีลงสนาม5 คู่ นับเป็นช่วงเวลาส่งต่อของฤดูกาล เนื่องจากจะเป็นการเตะก่อนเข้าสู่เทศกาลบ็อกซิ่งเดย์ และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โปรแกรมมหาโหดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยที่เกมสัปดาห์นี้นับเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายจ่าฝูงอย่างมาก เพราะ เชลซี มีโอกาสแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปนำฝูง เนื่องจากลงสนามก่อนในเวลา 21.00 น. ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะเล่นในเวลา 23.30 น.
ทั้ง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง กับ เชลซี เดินทางออกไปเยือนทั้งคู่ และจะต้องสวนทางกัน โดย ลิเวอร์พูล ลงจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ มาเตะที่ลอนดอน เจอกับ สเปอร์ส ขณะที่ เชลซี ต้องขึ้นจากลอนดอน ไปที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ เพื่อเจอกับ เอฟเวอร์ตัน
สองทีมนับเป็นทีมที่ไม่ได้อยู่ในเต็งที่จะเป็นแชมป์ เนื่องจากก่อนพรีเมียร์ลีกจะเริ่มต้นขึ้นนั้น เต็ง 1 คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเต็ง 2 คือ อาร์เซน่อล ซึ่งปรีวิวความพร้อมของทั้งสองเกม รวมถึงคู่ที่น่าสนใจประจำวันมีดังต่อไปนี้
เกมที่น่าสนใจเริ่มต้นในเวลา 21.00 น. “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน จะเปิดถิ่นกูดิสัน พาร์ค รับการมาเยือน “สิงห์บลูส์” เชลซี
ความพร้อมเริ่มที่เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ได้ Friedkin Group กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาซื้อกิจการหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสร ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 400 ล้านปอนด์ หรือ 17,400 บาท และ “ทอฟฟี่เมน” กลายเป็นสโมสรที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกภายใต้การเป็นเจ้าของส่วนใหญ่ของชาวอเมริกัน ผลงานในลีก 15 เกม ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 6 มี 15 คะแนน ล่าสุดบุกไปเสมอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อลมา 0-0 เกมนี้ทีมของ ฌอน ไดซ์ จะขาด ดไวท์ แม็คนีลแนวรุกคนสำคัญที่บาดเจ็บ บวกกับตัวเดิมอย่าง ทิมอิโรคบูนัม, เจมส์ การ์เนอร์ และอาร์มานโด้ โบรย่า นำโดยแจ็ค แฮร์ริสัน, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, โอเรล ม็องกาล่า,อิลิมาน เอ็นดิอาย, อับดูลาย ดูคูเร่ และ โดมินิคคัลเวิร์ต-ลูวิ่น
อาร์เน่อ สล็อต นำทัพ “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนถิ่นของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ฝั่งผู้มาเยือน เชลซี กำลังฟอร์มแรงไม่แพ้ใครมา 11 เกม ในทุกรายการ ชนะ 9 เสมอ 2 และในลีกก็ชนะ 5 เกมรวด พวกเขาคือทีมที่เก็บแต้มนอกบ้านได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ 8 เกม ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บได้ 19 คะแนน และที่สำคัญหากชนะเกมนี้จะแซง ลิเวอร์พูล ที่มี 36 คะแนน ขึ้นนำจ่าฝูงแบบเรียลไทม์ โดยตอนนี้มีอยู่ 34 แต้ม ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า จะหมดสิทธิ์ใช้งานมาร์ก คูคูเรลญ่า ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เวสลีย์ โฟฟาน่า,รีซ เจมส์ และเบอนัวต์ บาเดียชิล ที่บาดเจ็บ ส่วนมิคายโล มูดริค ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น ทำให้ต้องโยก มาโล่ กุสโต้ ไปยืนแบ๊กซ้าย และถอย มอยเซส ไคเซโด้ เล่นแบ๊กขวา ตรงกลางให้ โรเมโอ ลาเวีย ลงไปคุมจังหวะเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ โดยมี โนนี่มาดูเอเก้, โคล พัลเมอร์, เจดอน ซานโช่ และนิโคลัส แจ็คสัน ประสานงานเกมรุก
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ถือว่าสูสีผลัดกันชนะฝั่งละ 2 ครั้ง และเสมอ 1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม เอฟเวอร์ตัน (4-4-1-1) : จอร์แดน พีคฟอร์ด, แอชลีย์ ยัง,เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวต, วิตาลี่มิโคเลนโก้, แจ็ค แฮร์ริสัน, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, โอเรล ม็องกาล่า, อิลิมาน เอ็นดิอาย, อับดูลาย ดูคูเร่ และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ, มอยเซส ไคเซโด้, โทซิน อดาราบิโอโย่, เลวาย์ โคลวิลล์, มาโล่กุสโต้, โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โนนี่ มาดูเอเก้,โคล พัลเมอร์, เจดอน ซานโช่ และนิโคลัส แจ็คสัน
สกอร์ที่คาด : เอฟเวอร์ตัน 1-2 เชลซี
ขณะที่คู่ดึกสุดลงเล่นในเวลา 23.30 น. เป็นเกมบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ จะเปิดบ้านที่ลอนดอนเหนือ ดวลแข้ง“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
รูเบน อโมริม กับลีลาหลากอารมณ์นับตั้งแต่คุมทัพ แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งนัดนี้จะเจอกับ บอร์นมัธ
ความพร้อมเริ่มที่เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การคุมทีมของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง หลังเรียกความมั่นใจถล่ม “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 5-0 จน รัสเซลล์ มาร์ติน ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และล่าสุดเปิดบ้านเฉือน “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด 4-3 เข้ารอบรองชนะเลิศคาราบาว คัพ เท่ากับว่า 2 เกมที่ผ่านมา ถลุงตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 9 ประตู แต่ทีมมีปัญหาพอสมควรไม่มีนายทวารมือหนึ่งอย่าง กูเยลโม่วิคาริโอ้ รวมไปถึง ริชาร์ลิซอน, เบน เดวีส์, มิคกี้ฟาน เดอเฟ่น และคริสเตียน โรเมโร่ รวมไปถึง โรดริโก้ เบนตานคูร์ ที่ติดโทษแบน ทำให้ อาร์ชี่ เกรย์ น่าจะต้องเล่นเซ็นเตอร์จำเป็น ส่วน เดสตินี่ อูโดจี้ รอทดสอบความฟิต ถ้าลงไม่ไหว เจด สเปนซ์ จะทำหน้าที่แทน นอกนั้นอยู่กันครบ วาง แบรนแนน จอห์นสัน ประสานงานเกมรุกร่วมกับ โดมินิค โซลันกี้ และซน ฮึง-มิน
ผู้มาเยือน ลิเวอร์พูล เพิ่งโรเตชั่นแบบยกแผงบุกไปเอาชนะ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 2-1 ในคาราบาว คัพ ทำให้ อาร์เน่อ สล็อต มีสถิติในการคุมทีมที่เหลือเชื่อ 24 เกมในทุกรายการ ชนะ 20 เสมอ 3 แพ้ 1 และไม่พ่ายให้ใครมา 20 เกมติด หลังเสียท่าคาบ้านให้กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 แถมเกมนี้เขาจะพ้นโทษแบนกลับมาคุมทีมข้างสนามให้อีกครั้ง เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่โดนใบแดงโดยตรง แต่เป็นการฟาวล์ที่ไม่รุนแรง ไม่มีเจตนาทำร้ายคู่แข่ง ทำให้โดนแบนแค่ 1 เกม ส่วน อิบราฮิม่า โกนาเต้ และคอนอร์ แบร๊ดลีย์ ยังบาดเจ็บไม่น่าจะมีส่วนร่วมในเกมนี้ บรรดาผู้เล่นตัวหลักที่ได้พักเมื่อกลางสัปดาห์จะกลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด ยึดระบบ 4-2-3-1 ไรอัน กราเฟนแบร์ช คุมแดนกลางร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดยมี โมฮาเหม็ดซาลาห์ ประสานงานเกมรุกร่วมกับ โดมินิค โซโบสไล,โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ ที่ยืนเป็นฟอลส์ไนน์
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 14 เกมหลังที่ดวลกัน ลิเวอร์พูล พ่ายให้กับ สเปอร์ส แค่หนเดียว ชนะ 10 เสมอ 3 แพ้ 1 เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 2-1 ในเกมที่ เคอร์ติส โจนส์ และดีโอโก้ โชต้า โดนใบแดง จนเหลือผู้เล่น 9 คน และจังหวะล้ำหน้าที่ไม่ล้ำของ หลุยส์ ดิอาซ ที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างหนัก ถึงความผิดพลาดของการสื่อสารจากห้อง VAR จนมีคลิปเสียงออกมา
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-3-3) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์, เปโดร ปอร์โร่, อาร์ชี่ เกรย์, ราดู ดรากูซิน, เจด สเปนซ์,เดยัน คูลูเซฟสกี้, อิฟส์ บิสซูม่า, ป๊าป มาตาร์ ซาร์, แบรนแนน จอห์นสัน, โดมินิค โซลันกี้ และซน ฮึง-มิน
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิสแม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ
เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ กัปตันทีมเชลซี ที่กำลังเข้าฟอร์ม จะบุกไปเยือนถิ่นของ เอฟเวอร์ตัน
สกอร์ที่คาด : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 ลิเวอร์พูล
อีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจ เวลา 21.00 น. ไปกันที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านดวล “เดอะ เชอร์รีส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ
แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ผลงาน 5 เกม หลังสุดชนะ 2 แพ้ 3 เพิ่งบุกไปพ่ายให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-4 ตกรอบคาราบาว คัพ อังกฤษ เกมนี้ไม่มี เมสัน เมาท์ ที่บาดเจ็บอีกแล้ว รวมไปถึงลุค ชอว์ ส่วน นูสแซร์ มาซราวี ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไร ในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกตัดชื่อออกจากสารบบ เตรียมย้ายทีมในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว คาดว่าเกมนี้ยังยึดระบบ 3-4-2-1 มานูเอล อูการ์เต้ คุมแดนกลางร่วมกับ ค็อบบี้ เมนู วิงแบ๊กสองฝั่งใช้ อาหมัด ดิยัลโล่ และดีโอโก้ ดาโลท์ โดยมี บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และราสมุส ฮอยลุนด์ ประสานงานเกมรุก
ทีมเยือน เอเอฟซี บอร์นมัธ รั้งอันดับ 6 ของตาราง ลงเล่นไป 16 เกม ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 5 มี 25 คะแนน ทีมของอันโดนี่ อิราโอล่า ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่มีโปรแกรมกลางสัปดาห์ ช่วงนี้กำลังฟอร์มดีไม่แพ้ใครในลีกมา 4 เกมติด ชนะ 3 เสมอ 1 แม้จะสะดุดในเกมมันเดย์ไนท์เสมอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เกมนี้เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มี อเล็กซ์สก็อตต์, หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์,จูเลี่ยน อเราโฆ่ และมาร์กอส เซเนซี่ ทำให้ยังยึดแกนหลักชุดเดิมมาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย ลูอิส คุ๊ก, ไรอันคริสตี้, อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, ด็องโก้ควาตตาร่า และเอวานิลซอน
สถิติการพบกันทั้งสองทีม 22 ครั้ง แมนฯยูไนเต็ด เหนือกว่าเยอะ ชนะได้ 14 เสมอ 4 และบอร์นมัธ ชนะ 4
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม แมนฯยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อองเดร์ โอนาน่า, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ,อาหมัด ดิยัลโล่, มานูเอล อูการ์เต้, ค็อบบี้ เมนู, ดีโอโก้ดาโลท์, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และราสมุส ฮอยลุนด์
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า, อดัม สมิธ, อิลเลีย ซาบาร์นยี่, ดีน ฮุยเซ่น, มิลอส เคอร์เคซ,ลูอิส คุ๊ก, ไรอัน คริสตี้, อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต,ด็องโก้ ควาตตาร่า และเอวานิลซอน
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 บอร์นมัธ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี