การแข่งชันฟุตบอลลีกยุโรปฤดูกาล 2024-25 ดำเนินมาเกือบครึ่งทาง และกำลังเข้าสู่ปีใหม่ 2025 เป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีการพักเบรกหนีหนาว ปล่อยให้นักเตะได้ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาส มีเพียงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ยังต้องโม่แข้งกันต่อให้กับแฟนบอลได้รับชม แต่ลีกอื่นพักกันหมด นี่คือสถานการณ์ของ 4 ลีกดังยุโรปในช่วงพักเบรกหนีหนาว
l บุนเดสลีกา เยอรมนี
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ปราชัยเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ให้กับ ไมนซ์ 05 ที่ไม่รู้ว่าไปกินอะไรมาช่วงนี้คึกเหลือเกินอย่างไรก็ตามทีมของ แว็งซองต์ กอมปานี กลับมาได้อย่างรวดเร็วในเกมใหญ่ส่งท้ายปี 2025 ด้วยการเปิดบ้านถล่ม แอร์เบ ไลป์ซิก ไปแบบราบคาบ 5-1 ส่งผลให้พวกเขายังคงนับจ่าฝูงของตาราง ด้วยการลงเล่น 15 เกม ชนะ 11 เสมอ 3 แพ้ 1 มี 36 คะแนน
ขณะที่แชมป์เก่า และเป็นแชมป์ไร้พ่ายอย่าง “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เจอเทิร์นนิ่งพ้อยต์กลับมาสู่เส้นทางป้องกันแชมป์อย่างเต็มตัว หลังชนะในลีกมา 5 เกมรวด โกยแต้มจนสามารถขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงด้วยการมี 32 คะแนน ตามหลังผู้นำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค อยู่ 4 คะแนน ทำให้โอกาสกลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง
หนึ่งทีมที่ทำผลงานได้อย่างเซอร์ไพรส์คือ ไมนซ์ 05 ภายใต้การคุมทีมของ โบ เฮนริคเซ่น 8 เกมหลังในลีกแพ้แค่เกมเดียว ชนะ 5 เสมอ 2 พวกเขาปราบทีมใหญ่อย่าง โบรุสเซียดอร์ทมุนด์, บาเยิร์น มิวนิค และไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ทีมล่าสุด ทั้งที่เหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก ทำให้ไมนซ์ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง มีอยู่ 25 คะแนน
ส่วนโซนท้ายตาราง โบคุ่ม ปลดล็อคคว้าชัยเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ได้แล้ว ด้วยการเปิดบ้านทุบ ไฮเดนไฮม์ 2-0 มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน แต่ยังตามหลังโซนปลอดภัยอย่าง ฮอฟเฟ่นไฮม์ อยู่ 8 แต้ม อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับพวกเขาในการต่อสู้ดิ้นรนอยู่บนลีกสูงสุดต่อไป
ปิดท้ายด้วยอันดับดาวซัลโวผู้นำยังคงเป็น แฮร์รี่ เคน หัวหอกจากบาเยิร์น มิวนิค ที่ซัดไปแล้ว 14 ประตู ตามมาด้วย โอมาร์ มาร์มุช จากแฟร้งค์เฟิร์ต 13 ประตู และโจนาธาน เบอร์คาร์ดต์ จากไมนซ์ 10 ประตู
โดยบุนเดสลีกา เยอรมนี จะพักกันแบบยาวๆ กว่าจะกลับมาเตะกันอีกในวันที่ 10 มกราคม 2025 ประเดิมด้วยเกมบิ๊กแมทช์ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านพบกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
l กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
ศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี เป็นหนึ่งลีกที่แทบจะไม่เบรกหนีหนาวเลย เพราะปีนี้จะเล่นไปตามปกติไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม หลังจากนั้นจะพักจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2025 จะกลับมาลงฟาดแข้งกันอีกครั้ง จะว่าไปแล้วพักแค่ 5 วัน ถือว่าน้อยกว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยซ้ำ
สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในปัจจุบันกลายเป็น อตาลันต้า ที่ก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของตารางด้วยการมี 40 คะแนน ลงเล่นไป 17 เกม ชนะ 13 เสมอ 1 แพ้ 3 ทีมของ จาน ปิโอโร่ กาสเปรินี่
ฟอร์มในลีกร้อนแรงสุดๆ พวกเขาชนะมา 11 เกมรวด เรียกได้ว่านับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เก็บได้ถึง 33 คะแนนเลยทีเดียว
ที่ตามมาไม่ห่างคือ นาโปลี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ มีอยู่ 38 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าอย่าง “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน รั้งอันดับ 3 ของตาราง มีอยู่ 34 คะแนน เท่ากับ ลาซิโอ อันดับ 4
โซนท้ายตารางมีคนเพิ่งตกงานหมาดๆ คือ อเลสซานโดรเนสต้า ถูก มอนซ่า ปลดจากตำแหน่งกุนซือ หลังพาทีมออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างย่ำแย่ ชนะแค่เกมเดียวจากการลงเล่น 17 เกม เก็บได้แค่ 10 คะแนน รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง ตามหลังโซนปลอดภัยอันดับ 17 อย่าง เฮลลาส เวโรน่า อยู่ 5 คะแนน
ส่วนอันดับดาวซัลโวของเซเรียอา อิตาลี ในเวลานี้ผู้นำคือ มาเตโอ เรเตกี จากอตาลันต้า ที่ถูกซื้อเข้ามาแก้ปัญหาก่อนตลาดปิดหลังเสีย จานลูก้า สกามัคค่า ที่บาดเจ็บยาว ฟอร์มแรงเกินคาดกดไปแล้ว 12 ประตู ตามมาด้วย “ไอ้ทื่อ” มาร์คุส ตูราม จากอินเตอร์ มิลาน 11 ประตู และมอยเซ่ คีน จากฟิออเรนติน่า 9 ประตู
l ลาลีกา สเปน
เป็นอีกหนึ่งลีกที่ปิดเบรกหนีหนาวหลังจบสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกับบุนเดสลีกา เยอรมนี และจะกลับมาลงเล่นอีกครั้งในวันเดียวกันคือศุกร์ที่ 10 มกราคม 2025 แต่มีความแตกต่างกันตรงที่เกมนัดตกค้างระหว่าง “ค้างคาว” บาเลนเซีย ที่เพิ่งตะเพิด รูเบน บาราฆ่า ออกจากตำแหน่งกุนซือ จะเปิดบ้านพบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จะลงเล่นในวันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2025
สำหรับสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ถือว่าคู่คี่สูสีกันแบบสุดๆ หลักๆ มีม้าวิ่งถึง 4 ตัว ไฮไลต์ในสัปดาห์พักเบรกหนีหนาวคือเกมบิ๊กแมทช์ที่ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริดบุกไปเฉือน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า 2-1 ทำให้พวกเขามี 41 คะแนน ผงาดขึ้นมานำจ่าฝูงของตาราง
นี่คือชัยชนะเกมเยือนครั้งแรกของ แอต มาดริด ที่มีเหนือบาร์เซโลน่าในการไปเยือนในลีกนับตั้งแต่ปี 2006 และยังเป็นชัยชนะเกมแรกของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ในการเล่นเกมเยือนพบกับทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ด้วย ผลงานของพวกเขาร้อนแรงสุดๆ ชนะมา 12 เกมติดในทุกรายการ
ส่วน บาร์เซโลน่า เสียตำแหน่งจ่าฝูงไม่พอยังหล่นไปรั้งอันดับ 3 ของตาราง โดน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แซงรั้งอันดับ 2 แทน แถมคู่แข่งอย่าง “ชุดขาว” และ “ตราหมี” ยังมีเกมในมือมากกว่าพวกเขาอีก 1 นัดด้วย
ในโซนท้ายตาราง บาเลนเซีย สถานการณ์น่าเป็นห่วง รั้งรองบ๊วยของตารางจนต้องปลด รูเบน บาราฆ่า ออกจากตำแหน่ง แม้จะมีเกมในมือมากกว่าทีมอื่นๆ ในโซนนี้อย่าง เรอัล
บายาโดลิด, เอสปันญ่อล, เกตาเฟ่ รวมไปถึง อลาเบส แต่ก็ต้องเจองานหนักเพราะคู่แข่งคือ เรอัล มาดริด
อันดับผู้นำดาวซัลโว 1 และ 2 มาจาก บาร์เซโลน่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซัดไปแล้ว 15 ประตู ตามด้วย ราฟินญ่า 11 ประตู อันดับ 3 คือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จากเรอัล มาดริด 10 ประตู
l ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ปีนี้มาแปลกพักเบรกหนีหนาวก่อนลีกอื่น ๆ ปิดวีกด้วยเกมใหญ่ที่ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง บุกไปถล่ม โมนาโก 4-2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม โดยจะกลับมาลงเล่นอีกครั้ง ในคืน
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2025
สถานการณ์ลุ้นแชมป์ผู้นำคือ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ของ หลุยส์ เอ็นริเก้ กลายเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในลีก16 เกม ชนะ 12 เสมอ 4 เก็บได้ถึง 40 คะแนน นำห่างอันดับ 2 อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย์ ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้เด แซร์บี้ อยู่ถึง 10 คะแนน อันดับ 3 คือ โมนาโก มี 30 แต้มเท่า มาร์กเซย์ ส่วนอันดับ 4 คือ ลีลล์ ทีมี 27 คะแนน
ส่วนในโซนตกชั้นยังลุ้นเกาะกลุ่มกันอย่างสนุก มงต์เปลลิเย่ร์ ที่ปลด มิเชล เดอร์ ซาคาเรียน ออกจากตำแหน่งตั้ง “ขรัวเฒ่า” อย่าง ฌอง-หลุยส์ กาสเซ่ต์ ในวัย 71 ปี กลับมากู้วิกฤต แต่ผลงานยังไม่ดีขึ้นรั้งอันดับสุดท้ายของตารางมีอยู่ 9 คะแนน ตามหลัง อองเช่ร์ส ในโซนปลอดภัยอยู่ 4 คะแนน
อันดับดาวซัลโวลีกเอิง ฝรั่งเศส ถือว่าน่าสนใจ ผู้นำคือโจนาธาน เดวิด ดาวยิงชาวแคนาดา จากลีลล์ ที่ซัดไปแล้ว 11 ประตูโดยหัวหอกวัย 24 ปี กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้ พร้อมมีข่าวเชื่อมโยงกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่โผล่ขึ้นมาเป็นเต็งจ๋าเซ็นฟรี อันดับสองคือ เมสัน กรีนวู้ด จากโอลิมปิก มาร์กเซย์ ที่เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในแดนน้ำหอม ซัดไปแล้ว 10 ประตูเท่ากับ แบร๊ดลีย์ บาร์โคล่า จากปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ที่ถูกวางให้เป็นตัวแทนของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี