สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA) ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือการให้บริการ “30 บาทรักษาทุกที่” บน “แอปพลิเคชั่นทางรัฐ” เพื่อเพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนและใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง30 บาท) ให้กับประชาชนทางออนไลน์บนซูเปอร์แอปฯ ที่จัดทำโดย DGA ช่วยอำนวยสะดวกขั้นตอนใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และมั่นใจในความปลอดภัยทางข้อมูล เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า วันนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ DGA ในการเชื่อมต่อระบบบัตรทองกับแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ที่เป็นซูเปอร์แอปของภาครัฐจากการพัฒนาโดย DGA ที่ได้เชื่อมโยงการบริการจากหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ในแอปเดียว และวันนี้ได้รวมบริการในส่วนของ สปสช. นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วย
ภายใต้ความร่วมมือนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้สิทธิบัตรทอง โดยเชื่อมโยงสิทธิการรักษา ข้อมูลเพื่อเข้ารับบริการ ข้อมูลสุขภาพต่างๆ และการค้นหาสถานพยาบาลและหน่วยบริการต่างๆ ในระบบ ทั้งยังสามารถยืนยันการใช้สิทธิบัตรทองแทนบัตรประชาชนในการเข้ารับบริการผ่านแอปฯ ทางรัฐนี้ ที่สำคัญยังจัดเก็บประวัติการเข้ารับบริการที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทำให้ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพย้อนหลังได้
ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยทางข้อมูลเพราะผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูลนี้จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูลเท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนนโยบายบริการ 30 บาทรักษาทุกที่ อย่างไรก็ดี การยืนยันตัวตนผู้ใช้สิทธิบัตรทองในการเข้ารับบริการบนสมาร์ทโฟน ปัจจุบันมีช่องทางดำเนินการนอกจากผ่านแอปพลิเคชั่น สปสช., Line สปสช. @nhso, แอบพลิเคชั่นเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพแล้ว วันนี้ สปสช. ได้เพิ่มอีกหนึ่ง
ช่องทางผ่านแอปฯ ทางรัฐ
ทำให้ประชาชนมีช่องทางยืนยันใช้สิทธิที่หลากหลาย สร้างความมั่นใจในการเข้ารับบริการมากขึ้น ซึ่งวันนี้สามารถใช้บริการได้แล้ว โดยก่อนหน้านี้ สปสช. ได้มีความร่วมมือกับ DGA มาแล้วใน “โครงการวิเคราะห์และพัฒนากรอบธรรมาภิบาลข้อมูลและข้อมูลเปิดภาครัฐ” ในการสนับสนุนชุดข้อมูลสุขภาพในระบบบัตรทอง ให้หน่วยงานรัฐและประชาชนร่วมใช้ประโยชน์ ผ่านเว็บไซต์ data.go.th มาแล้ว
“สปสช. มีความยินดีและขอขอบคุณ DGA อย่างยิ่ง นับเป็นอีกครั้งหนึ่งของความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ทำให้ สปสช. ร่วมเป็นหน่วยงานที่ให้บริการบนแอปฯ ทางรัฐ ภายใต้การดูแลระบบของ DGA ที่ประชาชนมีความไว้วางใจ รวมถึงหน่วยบริการต่างๆ ในระบบบัตรทองที่เชื่อมต่อกับแอปฯ ทางรัฐนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการขยายความร่วมมืออันดีนี้ไปยังด้านอื่นๆ ต่อไปในอนาคต” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า DGA มีความยินดีที่ซูเปอร์แอปฯ ทางรัฐเป็นอีกช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ 30 บาทรักษาทุกที่ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนสามารถเข้าถึงบริการผ่านแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องพกบัตรประชาชนมาเพื่อขอใช้สิทธิและขอรับบริการ สำหรับคนไทยที่ติดตั้งแอปฯ ไปแล้วกว่า 39 ล้านดาวน์โหลด จะสามารถเข้าถึง 6 ฟีเจอร์ใหม่ของบริการ 30 บาทรักษาทุกที่ได้โดยง่าย เช่น
1.สามารถดูผลตรวจจาก Health Link 2.การใช้สิทธิเข้ารับการรักษาได้ โดยไม่ต้องใช้บัตรประชาชน (เพียงสแกน QR Code) 3.เปลี่ยนหน่วยบริการได้ด้วยตนเอง 4.ค้นหาหน่วยบริการ 5.ชำระ/เบิกค่ารักษาพยาบาล หลังจากเข้ารับการรักษา โดยทำการปิดสิทธิ ยืนยันใช้สิทธิ 30 บาทฯ ผ่านแอปฯ และไปรับยาได้ทันที 6.เช็คข้อมูลกรมธรรม์สิทธิสุขภาพเบื้องต้นที่คุณสามารถไปเข้ารับบริการได้ เป็นต้น
และสามารถเข้ารับการรักษาได้ครบ จบทุกขั้นตอน ไม่ต้องพกบัตรประชาชน ซึ่งเป็นความใส่ใจของรัฐบาลที่ต้องการลดความยุ่งยากเยอะให้หมดไป เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ทุกที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแอปฯ ทางรัฐเป็นเสมือน One Stop Service ของบริการภาครัฐที่สามารถ
“รู้ ยื่น จ่าย รับ” เช่น รู้ข้อมูลของตนเองและสิทธิสวัสดิการต่างๆ ทั้งสิทธิประกันสังคม เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด การตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร รวมถึงบริการชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าปรับใบสั่งจราจรผ่านแอปฯ ได้ เป็นต้น
“แอปฯ ทางรัฐมีบริการรัฐกว่า 172 บริการ มีผู้ใช้งานแอปฯ เฉลี่ยมากกว่า 500,000 คน/วัน ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของประชาชนในทุกช่วงวัยได้ทั้งครอบครัว DGA จึงขอเชิญชวนทุกท่านดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐติดมือถือไว้ผ่าน Play store / App Store และ Huawei หรือ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ทางรัฐ.com” รอง ผอ.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี