การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ ปีที่ 144 ถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 745 ทีมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2013 ที่ปีนั้นมีมากที่สุด 758 ทีม โดยทีมที่จะสมัครแข่งขันได้ต้องอยู่ในอังกฤษ และแคว้นเวลส์เท่านั้น
การดวลแข้งรอบ 3 วันเสาร์นี้ ถึงคิวของทีมจากพรีเมียร์ลีก และเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลงโม่แข้ง เกมที่น่าสนใจอยู่ในเวลา 19.15น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือน แอคริงตัน สแตนลีย์ จากลีก ทู
ลิเวอร์พูล เพิ่งพ่ายแพ้เกมที่ 2 ของฤดูกาลนี้ให้กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 0-1 ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เลกแรก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมหยุดสถิติไม่แพ้ใครในทุกรายการเอาไว้ที่ 24 เกม นัดนี้ยังไม่มี โจ โกเมซ ที่บาดเจ็บ
รวมไปถึง จาเรลล์ ควอนซาห์ ที่ไม่สมบูรณ์ ส่วน โดมินิค โซโบสไล ที่มีอาการป่วยต้องรอลุ้นว่าจะฟิตหรือไม่ นอกนั้นอยู่กันครบ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะโรเตชั่นทีมเกือบยกแผงหลังกรำศึกมายาวนาน ควีวิน เคลเลเฮอร์ จะได้ลงเฝ้าเสา รวมไปถึง วาตารุ เอ็นโดะ, ไทเลอร์ มอร์ตัน, เทรย์ เอ็นโยนี่, เฟเดริโก้ เคียซ่า, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และดาร์วิน นูนเญซ
ทีมเยือน แอคริงตัน สแตนลีย์ รั้งอันดับ 19 ของศึกลีก ทู อังกฤษ รอบที่แล้วเสมอกับ สวินดอน ทาวน์ 2-2 ก่อนจะดวลเป้าเอาชนะมาได้ 4-1 ปัจจุบันคุมทีมโดย จอห์น ดูแลน กุนซือวัย 56 ปี อดีตแนวรับของ วีแกน แอธเลติก เกิดที่เมืองลิเวอร์พูล และเคยทำงานกับอคาเดมี่ของ “หงส์แดง” และเอฟเวอร์ตัน ตามรายงานสภาพทีมไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน เรียกได้ว่าพร้อมสู้แกนหลักอยู่ครบ มาในระบบ 3-4-1-2 นำโดย โดนัลด์ เลิฟ, เลียง คอยล์, เนลสัน คุมเบนี่, ฌอน วอลลีย์, ไทเลอร์ วอลตัน, จอช วูดส์ และดาร่า คอสเตลโล่
เลียม คอยล์ กองกลางเกิดที่เมืองลิเวอร์พูล เริ่มต้นอยู่อะคาเดมี่หงส์ ตอนอายุ 9 ขวบ เมื่อปี 2009 ก่อนจะย้ายออกจากทีมเมื่อปี 2021 มาอยู่กับ สแตนลี่ย์ ขณะที่ จอช วู้ดส์ เคยเล่นให้กับ มารีน ทีมนอกลีกย่านครอสบี้ เมืองลิเวอร์พูล และเป็นแฟนบอลหงส์ โดยก่อนหน้านี้ จอห์น โคลแมน อดีตกุนซือ และจิมมี่ เบลล์ ผู้ช่วยผํู้จัดการทีม ที่เพิ่งอำลาทีมไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล โดยทั้งคู่คุมทีมนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว
ในอดีตนั้นทั้งสองทีมเคยเจอครั้งเดียว ในเอฟเอคัพ รอบ 3 ทีแอนฟิลด์ 2-0 เมื่อ 69 ปีที่แล้ว หรือ 7 มกราคม ปี 1956 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ลิเวอร์พูล ใส่เสื้อเหลือง ลงสนาม พร้อมกับ กางเกงขาว ถุงเท้าแดงสลับขาว เนื่องมาจากกฎเอฟเอ คัพ สมัยนั้น หากสองทีมที่พบกันมีเสื้อเหย้าตรงกันให้ใส่เสื้อเยือนแข่งกันทันที ซึ่งเวลานั้น ลิเวอร์พูล อยู่ดิวิชั่น 2 ส่วน แอคริงตัน อยู่ดิวิชั่น 3 นอร์ธ
สำหรับคู่นี้ยังมีประเด็นสำคัญนั่นคือ สปอตโฆษณาความยาวเพียง 40 วินาที แต่ขึ้นชั้นตำนาน ที่ชื่อว่า "Who are they?” ที่เกิดจาก Milk Marketing Board (MMB) บริษัทนมที่สนับสนุนวงการฟุตบอลลีกคัพยุคต้นทศวรรษที่ 80 ที่เรียกกว่า “มิล์คคัพ”
ในโฆษณาดังกล่าวนั้น เด็กชายสองคนใส่เสื้อสีแดงที่สื่อไปว่าเป็นนักบอลลิเวอร์พูลไปซ้อมบอลกันมา โดยเด็กชาย เอ คือ คาร์ล ไรซ์ และเด็กชาย บี คือ เควิน สไปน์ ก่อนจะมีบทสนทนาที่คือ ดช.บี พูดว่า เหนื่อยจริง มีน้ำมะนาวมั๊ยจะกินซะหน่อย
ดช.บี ไม่ตอบอะไร ก่อนจะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบนมให้ ดช.เอ แต่ ดช.บี บอกไม่กินหรอกนม
ดช.เอ พูดว่า “เอียน รัช แข็งแรงเพราะดื่มนะ”
ดช.บี ตอบว่า “เอียน รัช เหรอ!!!!!!” ซึ่งเวลานั้น เอียน รัช กำลังโด่งดังและย้ายกลับมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เป็นคำรบ2
ดช.เอ ย้ำว่า “ใช่!!!!!!! เอเียน รัช บอกว่า ถ้าเด็กไม่ดื่มนม โตขึ้นมาจะได้เตะบอลกับทีมแอคคริงตัน สแตนลี่ย์ นะ!!!!!”
แล้วคำในตำนานก็มาถึง เมื่อ ดช.บี ตอบว่า Who are they???
“แอคคริงตัน สแตนลี่ย์…..พวกเขาเป็นใครเหรอ???”
ดช.เอ จึงตอบเพื่อนว่า “ก็ใช่ไง”…ดช.บี จึงสรุปว่า งั้นเอานมมาให้ชั้นดื่มเถอะเพื่อน!!!!!!
ซึ่งผู้ผลิตโฆษณา ได้จ่ายเงินให้กับ แอคคริงตัน ไป 10,000 ปอนด์ ซึ่ง เดวิด ลอยด์ ผู้บริหารของทีมยอมรับว่า รับเงินจริง โดยก่อนหน้านั้นมีการตกลงกันว่า จะใช้ชื่อทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แต่ “ไก่เดือยทอง” ไม่ยอม เพราะมันเหมือนกับการหยามเกียรติกันจนเกินไปนั่นเอง
บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี