ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมกลางสัปดาห์ของคืนวันอังคาร ลงเล่นในเวลา 03.00 น. “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ทีมอันดับ 3 จะเปิดบ้านรับการมาเยือนจ่าฝูง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ความพร้อมเริ่มที่เจ้าถิ่น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ฟอร์มร้อนแรงแบบไม่มีใครคาดคิดชนะมา 7 เกมติดในทุกรายการ และ 6 เกมติดในลีก ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 40 คะแนนเท่ากับรองจ่าฝูงอย่างอาร์เซน่อล เกมนี้ไม่มี อิบราฮิม ซังกาเร่ ที่ยังบาดเจ็บเพียงรายเดียว เรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้ใช้งานครบครัน จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 นำโดย ไรอัน เยตส์, เอลเลียตต์ แอนเดอร์สัน, แอนโธนี่ เอลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และคริส วู้ด
ฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล แพ้เป็นเกมที่ 2 ในฤดูกาลนี้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เลกแรกแต่เอฟเอ คัพ ส่งสำรองลงเล่นถล่ม แอคริงตัน สแตนลีย์ จากลีกทู 4-0 ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต มีปัญหาจุดเดียวคือ โจ โกเมซ แนวรับอเนกประสงค์ที่บาดเจ็บ นอกนั้นกลับมากันครบ บรรดาแกนหลักจะคืนตัวจริงทั้งหมดยึดระบบ 4-2-3-1 ไรอัน กราเฟ่นแบร์ชคุมแดนกลางร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดยมี โมฮาเหม็ดซาลาห์ ประสานงานเกมรุกกับ โดมินิค โซโบสไล และโคดี้ กัคโป โดยมี หลุยส์ ดิอาซ เล่นเป็นฟอลล์ไนน์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ฟอเรสต์ ชนะ 2 เกมแรกในฤดูกาลนี้ปะทะที่ แอนฟิลด์ ฟอเรสต์ ทำแสบบุกไปเฉือน 1-0 จากประตูชัยของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย
สกอร์ที่คาด : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-2 ลิเวอร์พูล
คู่ต่อมา “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ความพร้อมเริ่มที่เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ดช่วงนี้กำลังฟอร์มย่ำแย่ 7 เกมหลัง
ชนะได้แค่นัดเดียวและเป็นการชนะบ๊วยอย่างเซาแธมป์ตัน ล่าสุดเพิ่งตกรอบเอฟเอ คัพ อังกฤษ ด้วยการพ่ายคารังให้กับ พลีมัธอาร์ไกล์ จากลีกรอง 0-1 เกมนี้ทีมของ โธมัส แฟรงค์ เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียบไม่มี จอช ดาซิลวา, อีธาน พินน็อค, คริสโตเฟอร์อาเยอร์, เบน มี, แอรอน ฮิคกี้, อิกอร์ ติอาโก้ และกุสตาโว่ นูเนส ทำให้ต้องใช้ชุดเดิม แต่แกนหลักที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริงเกมรุกยังต้องฝากความหวังไว้ที่ ไบรอัน เอ็มเบอโม่, โยอัน วิสซ่า และเควิน ชาเดอ
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ฟื้นคืนชีพกลับมาชนะ 3 เกมติดในทุกรายการ ล่าสุดไล่ถล่ม ซัลฟอร์ด ซิตี้ ในเอฟเอ คัพ แบบขาดลอย 8-0 เกมนี้ยังไม่มี โรดรี้, รูเบนดิอาส และจอห์น สโตนส์ที่บาดเจ็บ ส่วน ออสการ์บ็อบบ์ แนวรุกดาวรุ่งเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บขาหักลงซ้อมครั้งแรกในรอบ 5 เดือนที่เหลือไม่มีปัญหาอะไรมาในระบบ 4-1-4-1มาเตโอ โควาซิซ คุมแดนกลาง แนวรุกยืนแบบหน้ากระดานนำโดย ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และซาวินโญ่ โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ยืนหน้าเป้า
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ แมนฯซิตี้ ชนะ 3 และเบรนท์ฟอร์ด ชนะ 2
สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด 2-3 แมนฯซิตี้
อีกคู่ 02.30น. ไปกันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ “สิงห์บลูส์” เชลซี จะรับการมาเยือน “เดอะ เชอร์รี่ส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ โดย เชลซี หยุดสถิติไม่แพ้ชนะใครไว้ที่ 4 เกมติด หลังเรียกความมั่นใจด้วยการถล่ม มอร์แคมบ์ 5-0 ในเอฟเอ คัพ รอบ 3 ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ค่อนข้างสมบูรณ์ไม่มี เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลีย์ โฟฟาน่า และเคียร์แนน คิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ที่บาดเจ็บ ส่วน โนนี่ มาดูเอเก้ ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลืออยู่กันครบ มาในระบบ 4-2-3-1 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คุมแดนกลางร่วมกับ มอยเซสไคเซโด้ แนวรุกใช้ เปโดร เนโต้ ประสานงานกับ โคล พัลเมอร์, เจดอน ซานโช่ และนิโคลัส แจ็คสัน
ฝั่งผู้มาเยือน เอเอฟซี บอร์นมัธ ภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครมา 8 เกมติดในทุกรายการเกมนี้เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มี อเล็กซ์ สก็อตต์, หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า, มาร์กอส เซเนซี่, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, อดัม สมิธ, เอวานิลซอน และเอเนส อูนาล ทำให้ต้องขยับ อองตวนเซเมนโย่ ขึ้นไปยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมส่ง เดวิด บรู๊คส์ ขึ้นเกมรุกริมเส้นฝั่งขวาประสานงานกับ จัสติน ไคลเวิร์ต และดานโก้ควาตตาร่า
สกอร์ที่คาด : เชลซี 2-1 บอร์นมัธ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี