“บูม” กษิดิศ นักหวดมือ 1 ของไทย พยายามเต็มที่ก่อนสุดท้ายจะพ่าย ดานีล เมดเวเดฟ อดีตมือ 1 ของโลก ไปแบบสุดมัน 2-3 เซต ในศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่ ร็อด เลเวอร์ อารีน่า

การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปี “ออสเตรเลียนโอเพ่น” ที่ ร็อด เลเวอร์ อารีน่า เมลเบิร์นพาร์ค ประเทศออสเตรเลีย เปิดฉากรอบเมนดรอว์ โดยเมื่อวันอังคารที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ไฮไลท์ที่แฟนกีฬาชาวไทยรอคอย เมื่อ “บูม” กษิดิศสำเร็จ นักหวดมือ 1 ของไทย วัย 23 ปี มืออันดับ 414ของโลก ลงแข่งขันในฐานะมือไวลด์การ์ด ประเภทชายเดี่ยว ดวลกับ ดานีล เมดเวเดฟ อดีตนักหวดมือ 1 ของโลก และมือ 5 ของรายการ ชาวรัสเซีย วัย 28 ปี รองแชมป์รายการนี้3 สมัย ในปี 2021, 2022 และปี 2024

เริ่มมาในเซตแรก กษิดิศ เจอลูกหวดที่หนักหน่วงก่อนที่ เมดเวเดฟ จะเบรกเกมเสิร์ฟก่อนเอาชนะไปได้ 6-2ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 30 นาที จากนั้นในเกมเซตที่ 2 “เจ้าบูม” รักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนจะสู้กับเมดเดเวฟ ได้อย่างสูสีสกอร์เท่ากันที่ 4-4 ก่อนที่ กษิดิศ จะเบรกเกมเสิร์ฟของ เมดเวเดฟ คว้าชัยในเซตที่สองได้สำเร็จ 6-4 ตีเสมอเป็น 1-1 เซตแล้ว ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 45 นาที

เซต 3 กษิดิศ ยังเล่นด้วยความมั่นใจและเบรกเกมเสิร์ฟเมดเวเดฟ ได้ ก่อนจะขึ้นแท่นที่ 5-3 จนทำให้ เมดเวเดฟออกอาการหงุดหงิดสุดๆ จนทุบแร็กเกตของตัวเองจนหักก่อนที่ บูม จะเล่นถึง 4 เซตพอยต์ เอาชนะไปได้ 6-3 ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 42 นาที และทำให้ กษิดิศ ต้องการอีกเพียง เซตเดียวเท่านั้นเพื่อเข้ารอบต่อไป แต่แล้วเข้าสู่เซตที่ 4 เมดเวเดฟที่รู้ตัวว่าพลาดไม่ได้แล้ว โชว์ฟอร์มอย่างดุดันก่อนจะเบรกเกมเสิร์ฟ และเอาชนะ กษิดิศ ไปได้แบบขาดลอย 6-1 ทำให้เวลานี้เสมอกัน 2-2 เซต ใช้เวลาไป 40 นาที ต้องไปตัดสินกันในเซตสุดท้าย

ผลปรากฏว่า เมดเวเดฟ เริ่มด้วยการเบรกเกมเสิร์ฟของ กษิดิศ ได้ก่อนขึ้นนำ 1-0 ทำให้กุมความได้เปรียบในเซตนี้ขณะที่ บูม นั้นเหมือนจะแรงหมดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ เมดเวเดฟ เอาชนะไป 6-2 จบเกม กษิดิศ พ่าย เมดเวเดฟ ไปแบบสุดมัน 2-3 เซต 2-6, 6-4, 6-3,1-6 และ 2-6 ยุติเส้นทางเอาไว้เพียงรอบแรก แต่สร้างความประทับใจให้แฟนเทนนิสในสังเวียน ร็อดเลเวอร์ อารีน่า เมื่อได้รับเสียงปรบมืออย่างล้มหลามหลังการแข่งขันจบลง พร้อมรับเงินรางวัล 132,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 2.83 ล้านบาทกลับบ้าน

ทั้งนี้ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ นับเป็นคนแรกของนักเทนนิสชายไทยรอบ 13 ปี ที่ได้แข่งแกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น ต่อจาก “ไอ้หนุ่มแร็กร้อน” ดนัย อุดมโชคเมื่อปี 2012