“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับปัญหามากมายทั้งในและนอกสนามตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่ามีแต่เรื่อง!!!!!
หลังจากพ่ายเละเทะคาบ้าน ด้วยฟอร์มเละเทะส่วนบุคคลเป็นส่วนสำคัญ ทำให้พังต่อ ไบรท์ตัน 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก จากนั้นก็หลุดข่าวที่ว่ามีการปะทะคารมกันหลังเกมในห้องแต่งตัว จนทำให้ รูเบน อาโมริม กุนซือถึงกับเตะจนจอทีวีพัง
อาโมริม ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลาย หลังจากพาทีมเฉือนชนะ กลาสโกว เรนเจอร์ส 2-1 ในศึกยูโรป้า ลีก แต่ก็ไม่วายมีปัญหาตามมา 2 เรื่อง
1.เรื่องการจัดการ กับ 2.เรื่องการจัดการ(อีกนั่นแหล่ะ)!!!!!!
เริ่มจากเรื่องแรกกันก่อน นั่นคือ “ตั๋วบอล”
เป็นภาพที่สร้างประหลาดใจและบ้าบอคอโป่งอย่างมาก เมื่อเห็นแฟนบอลอัฒจันทร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ลุกขึ้นดีใจ ทั้งที่ แมนยูฯโดนยิงประตู
สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แถลงการณ์ยอมรับแบบหน้าช้ำอกตรม ว่า พวกเขาไม่สามารถ “กำจัด” และ “จัดการ” แฟนบอลทีมเยือนที่ซื้อตั๋วเข้ามานั่งในฝั่งเจ้าบ้าน ได้จริงๆ
ในเกมยูโรป้าลีก ปรากฏว่า มีแฟนบอลเรนเจอร์สมากกว่า 3,500 คน อยู่ในฝั่งทีมเยือนสำหรับเกมยูโรป้าลีกเมื่อวันพฤหัสบดีระหว่างทั้งสองทีม แต่ภาพทางโทรทัศน์เผยให้เห็นแฟนบอลอีกหลายสิบคนกำลังฉลองประตูตีเสมอในนาทีที่ 88 ในฝั่งของยูไนเต็ดสแตนด์
ยูไนเต็ด กล่าวว่า พวกเขาใช้มาตรการป้องกัน “ที่เข้มงวด” หลายประการเพื่อปิดกั้นแฟนบอลที่ซื้อตั๋วในฝั่งเจ้าบ้าน และสโมสรยืนกรานว่าตั๋วถูกจัดสรรให้เฉพาะแฟนบอลในฐานข้อมูลของสโมสรเท่านั้น
แต่สโมสรยอมรับว่าเนื่องจาก “การขายตั๋วโดยไม่ได้รับอนุญาต” หรือ ปล่อยให้ใครก็ได้ ส่งผลให้ สโมสรเองก็จนปัญญาที่จะขจัดปัญหานี้
มันจึงเกิดความเป็นไปได้ที่แฟนบอลทีมเยือนจะนั่งในฝั่งเจ้าบ้าน อย่างที่ทุกคนได้เห็น
ยูไนเต็ด พร้อมที่จะเปิดการสอบสวนเต็มรูปแบบเกี่ยวกับวิธีที่ตั๋วสำหรับโซนเหย้า ถูกส่งไปถึงมือของแฟนบอลเรนเจอร์ส และพวกเขาจะใช้ “มาตรการลงโทษที่รุนแรงที่สุด” กับผู้ถือตั๋วที่ลงทะเบียนแล้วซึ่งพบว่าละเมิดกฎระเบียบ
หลังจบเกม ตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ เปิดเผยว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ปล่อยตั๋วจุดนั้นได้ 39 รายในคืนวันแข่งขัน โดย 26 รายจับมาจากเหตุวุ่นวายในใจกลางเมือง
ก่อนหน้านี้ สโมสรได้ออกมาขอโทษแฟนบอลเมื่อปี 2023 หลังจากปล่อยให้แฟนบอลกาลาตาซารายมากกว่า 2,000 คนเข้าไปในโซนฝั่งเหย้าเพื่อเข้าชมเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
นั่นคือเรื่องแรกที่จัดการไม่ได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ 2
สโมสรได้เขียนจดหมายถึงแฟนบอล เพื่อระบุว่า สโมสรมีความเสี่ยงที่จะละเมิดกฎการใช้จ่าย และทำให้ราคาตั๋วอาจเพิ่มขึ้น ภายใต้กฎผลกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก (PSR) สโมสรจะต้องไม่ขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ใน 3 ปี
ในจดหมายถึงกลุ่มแฟนบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกล่าวว่าพวกเขาต้อง “ดำเนินการทันที”
“หากเราไม่ดำเนินการทันที เราจะเสี่ยงต่อการล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อกำหนด PSR/FFP ปัจจุบันเราขาดทุนอย่างมากทุกปี รวมเป็นกว่า 300 ล้านปอนด์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา”
เท่ากับว่าติดลบกว่า 13,500 ล้านบาท
“เราจะต้องตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งรวมถึงการลดจำนวนพนักงานของเราลงอย่างมาก รวมถึงการตัดค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ด้านของสโมสรของเรา เราไม่ได้คาดหวังว่า แฟนบอลจะต้องช่วยทีมในการชดเชยเงินที่ขาดอยู่ทั้งหมดได้ แต่เราจำเป็นต้องพิจารณากลยุทธ์การจำหน่ายตั๋วของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราเรียกเก็บเงินในจำนวนที่เหมาะสม และเสนอส่วนลดที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆสำหรับแฟนบอลของเรา”
จดหมายฉบับนี้ของสโมสร เป็นการตอบสนองต่อจากการที่ กลุ่มแฟนบอล The 1958 และ Fan Coalition 58 ได้เขียนจดหมายเรียกร้องให้ยูไนเต็ด “พิจารณาผลกระทบในระยะยาวจากการขึ้นราคาตั๋ว”
เมื่อเดือนกันยายน 2024 ยูไนเต็ด รายงานการขาดทุนสุทธิ 113.2 ล้านปอนด์ โดยระบุวันสิ้นสุดบัญชี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2024
ตามมาด้วยรายงานการขาดทุน 28.7 ล้านปอนด์ ในปี 2022-23,ขาดทุน 115.5 ล้านปอนด์ในปี 2021-22 และขาดทุนสะสมตลอด 5 ปี รวมกว่า 370 ล้านปอนด์
สโมสรแมนฯยูไนเต็ด ถูกกล่าวหาว่า “เอาเปรียบแฟนบอล” หลังจากตัดสินใจขึ้นราคาตั๋ววันแข่งขันเป็น 66 ปอนด์ต่อเกมในช่วงกลางฤดูกาล โดยไม่มีส่วนลดใดๆ สำหรับเด็กหรือผู้รับบำนาญ
การประกาศราคาตั๋วดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สโมสรยืนยันว่า ค่าใช้จ่ายที่พวกเขาต้องชำระให้กับ อดีตผู้จัดการทีม เอริก เทน ฮาก และทีมงาน อยู่ที่ตัวเลข 10.4 ล้านปอนด์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการ
ฉีกสัญญาเพื่อดึงตัว รูเบน อาโมริม เข้ามาแทนที่อยู่ที่11 ล้านปอนด์
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า พวกเขาใช้เงินไป 8.6 ล้านปอนด์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเลิกจ้าง ซึ่งทำให้พนักงานประมาณ 250 คนต้องตกงาน
พวกเขาประกาศงดจ่ายเงินให้กับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมกับลดจ่ายเงินช่วยเหลืออดีตนักเตะ และกำลังจะตัดเงินบรรดาตำนานทีมที่ทำงานกับสโมสรด้วย
ฤดูกาลที่แล้ว เอฟเวอร์ตันถูกหัก 6 คะแนนจากการอุทธรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์จากการละเมิดกฎ PSR เป็นระยะเวลา 3 ปีจนถึงปี 2021-22
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎ PSR ในฤดูกาลที่แล้ว และถูกหักคะแนน 4 คะแนนในเดือนมีนาคม
ไม่แปลกที่พวกเขา “จึงมีโอกาส” ในการถูกตัดแต้มเช่นกันในอนาคต เพราะจากการประกาศก่อนหน้านี้ ทุกทีมนั้นรอด
…..เคสนี้ต้องทำความเข้าใจกันอย่างมาก เพราะการบริหารที่ “เน่าใน” และทำให้มัน “เน่าเอาไว้” ตั้งแต่ยุคของ เอ๊ด วู้ดเวิร์ด ที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยซื้อนักเตะราคาแพงเกินไปรวมไปถึงค่าเหนื่อยสูงเกินจริง ให้กูตรงตรงก็คือซื้อทุกอย่างแบบนี้มีเงินทอน
ต่อเนื่องด้วยการบริหารผิดพลาดในยุคปัจจุบันที่ต่อสัญญาของเอวิค เทน ฮาก ออกไปก่อนจะปลดแต่อีกไม่กี่เดือนต่อมาทำให้เสียเงินวุ่นวายไปหมดบวกกับทีมไม่ได้ไปฟุตบอลควยใหญ่แต่ต้องการจะประสบความสำเร็จขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ฟอร์มการเล่นก็มีปัญหามาหลายปีผมเห็นกับตาว่าเสื้อผ้าของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกแขวนขาแผงขายไม่ออกไม่ได้รับความนิยมมากมายเหมือนเดิม
นั่นหมายความว่ามันมาจากความห่วยแตกทั้งองคาพยพนั่นแหละ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี