การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมทช์เดย์ที่ 23 ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 มีลงฟาดแข้ง 4 คู่ เกมที่น่าสนใจเริ่มในเวลา 21.00 น. “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้

สเปอร์ส เพิ่งเรียกความมั่นใจกลับมาในการบุกไปเอาชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 3-2 ในศึกยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ฟอร์มในลีกยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะไม่ชนะใครมา 6 เกมติดแล้ว ก่อนเกม แองจ์ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมได้ให้สัมภาษณ์โอดครวญถึงปัญหาที่ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักที่รบกวนตลอดเวลามีส่วนสำคัญทำให้ทีมผลงานไม่ดีอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเกมนี้ปัญหาดังกล่าวยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม หลักๆ ไม่มีกูเยลโม่ วิคาริโอ้, มิคกี้ ฟาน เดอเฟน, คริสเตียน โรเมโร่, เดสตินี่อูโดจี้, โดมินิค โซลันกี้, อิฟส์ บิสซูม่า, แบรนแนน จอห์นสัน, ป๊าป ซาร์และตีโม แวร์เนอร์ เรียกได้ว่าแทบจะหมดทีม ยังดีได้ เบน เดวีส์ กลับมาคุมแนวรับ ทำให้ดาวรุ่งอย่าง อาร์ชี่ เกรย์ จะถูกขยับกลับไปเล่นมิดฟิลด์ตามถนัดคุมจังหวะเกมร่วมกับ ลูคัส เบิร์กวัลล์ และเจมส์ แมดดิสัน สามแนวรุกใช้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ประสานงานกับ ริชาร์ลิซอน และซน ฮึง-มิน

ทางฝั่งผู้มาเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ สถานการณ์ขับขันแบบสุดๆ แพ้ในลีกมา 7 เกมติด จนตอนนี้หล่นมารั้งอันดับ 19 ของตาราง นับตั้งแต่ รุด ฟาน นิสเตลรอย เข้ามาคุมทีมชนะในลีกแค่เกมเดียวในการถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ในเกมเปิดตัว เก็บได้แค่คะแนนเดียวจากการเสมอกับไบรท์ตัน เกมนี้ยังไม่มี อับดุล ฟาตาวู, ริคาร์โด้
เปเรยร่า, วีลฟรีด เอ็นดิดี้ และแมดส์ เฮอร์มานเซ่น ที่บาดเจ็บ ทำให้ ยาคุบ สโตลาร์ชิค จะได้ลงเฝ้าเสาต่อไป ที่เหลือนำโดย บูบาการี่ซูมาเร่, แฮร์รี่ วิงค์ส, จอร์แดน อายิว, บิลัล เอล คานนูสส์, สเตฟี่ย์มาวิดิดี้ และเจมี่ วาร์ดี้

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด สเปอร์ส ทำได้ดีกว่าชนะ 3 เสมอ 1 และเลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 1

สกอร์ที่คาด : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-2 เลสเตอร์ ซิตี้

คู่ต่อมา 23.30 น. “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นรอดพ้นความพ่ายแพ้ในการไปเยือน อาร์เซน่อล โดนนำ 2-0 แต่ไล่ตามตีเสมอ 2-2 อย่างไรก็ตามกลางสัปดาห์ดันออกไปพ่าย โมนาโก 0-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมของ อูไน เอเมรี่ ยังไม่มี อมาดูโอนาน่า, เปา ตอร์เรส, จอห์น แม็คกินน์ และรอสส์ บาร์คลีย์ที่บาดเจ็บ และเพิ่งปล่อยแนวรับอย่าง ดีเอโก้ คาร์ลอส ไปให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ เอาเงินไปเสริม อันเดรส การ์เซีย แบ๊กขวาจาก เลบันเต้เข้ามาร่วมทีมเป็นรายที่ 2 ของตลาดหน้าหนาวต่อจาก ดอนเยลล์มาเล่น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเกมนี้ทั้งคู่น่าจะต้องนั่งสำรองไปก่อนใช้แกนหลักชุดเดิมในระบบ 4-2-3-1 ยูริ ตีเลมานส์ คุมแดนกลางร่วมกับ บูบาการ์ กามาร่า แนวรุกวาง เลออน ไบลีย์ ประสานงานกับ มอร์แกน โรเจอร์ส และเจค็อบ แรมซีย์ โดยมี โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำหน้าที่ล่าตาข่าย

ทีมเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ “เฮียหม้อ”แกรห์ม พ็อตเตอร์ สัปดาห์ที่แล้วพ่ายคารังให้กับ คริสตัล พาเลซ 0-2 ตอนนี้รั้งอันดับ 14 ของตาราง สภาพทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งานคอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ปราการหลังชาวกรีซที่ติดโทษแบน รวมไปถึงตัวที่เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง ฌอง แคลร์-โตดิโบ้,มิคาอิล อันโตนิโอ, จาร์ร็อด โบเว่น และนิคลาส ฟืลล์ครึก ส่วน คริสเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์ ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลืออยู่กันครบ คาดว่าจะกลับมาในระบบ 4-2-3-1 น่าจะเข็ดจากเกมที่แล้วที่ปรับยืนหลังสามแล้วแพ้คารัง อัดมิดฟิลด์ให้แน่นนำโดย เอ็ดสัน อัลบาเรซ, กีโด้ โรดริเกซ, โทมัส ซูเซ็ค และการ์ลอส โซแลร์ ส่วนเกมรุกต้องฝากความหวังไว้ที่ โมฮาเหม็ด คูดูส และลูคัส ปาเกต้า ที่จะถูกดันไปเล่นฟอลส์ไนน์

สกอร์ที่คาด : แอสตัน วิลล่า 2-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ปิดท้ายด้วยคู่ดึกสุด ลงฟาดแข้งในเวลา 02.00 น. ไปกันที่ คราเวน ค็อตเทจ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม จะเปิดบ้านรับการมาเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เจ้าถิ่น ฟูแล่ม รั้งอันดับ 10 ของตารางมีอยู่ 33 คะแนน ช่วงหลังฟอร์มฝืดแต่เหนียวแน่น 10 เกมในลีกแพ้แค่นัดเดียว ชนะ 3 เสมอ 6 ล่าสุดบุกทุบ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เกมนี้ไม่มี เคนนี่ เตเต้ และรีสส์ เนลสัน ที่บาดเจ็บ นอกนั้นตามรายงานไม่มีปัญหาอะไรมีตัวเลือกให้ใช้งานครบครัน คาดว่า มาร์โก ซิลวา ยังคงยึดแกนหลักชุดเดิมมาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย ซาช่า ลูคิช, ซานเดอร์ เบิร์ก, แฮร์รี่ วิลสัน, เอมิล สมิธ โรว์, อเล็กซ์ อีโวบี้ และราอูล ฆิเมเนซ

ฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 13 ของตาราง มี 26 คะแนน 6 เกมหลังในลีกชนะนัดเดียวคือการเจอกับเซาแธมป์ตัน ส่วนนัดล่าสุดชนะ เรนเจอร์ส 2-1 แบบหืดจับสภาพทีมไม่มีอะไรต้องกังวลตัวเจ็บหน้าเดิมๆ อย่าง วิตอร์ ลินเดเลิฟ,ลุค ชอว์, เมสัน เม้าท์ และจอนนี่ อีแวนส์ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร ยังยึดระบบ 3-4-2-1 มานูเอล อูการ์เต้ และค็อบบี้ เมนูจะกลับมาคุมแดนกลาง นูสแซร์ มาซราวี จะประจำการวิงแบ๊กฝั่งขวาทำให้ อาหมัด ดิยัลโล่ จะขยับขึ้นไปเป็นตัวรุกประสานงานกับ บรูโน่เฟอร์นานเดส แดนหน้าดร็อป โยชัว เซิร์กซี ส่ง ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงตัวจริง

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ แมนฯยูไนเต็ด เหนือกว่า ชนะ 4 และฟูแล่ม ชนะ 1

สกอร์ที่คาด : ฟูแล่ม 1-2 แมนฯยูไนเต็ด