ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบลีกเฟสนัดที่สุดท้าย ลงเล่นพร้อมกันทุกคู่ในเวลา 03.00 น. ของค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568 ติดตามสถานการณ์ของ 2 ตัวแทนจากประเทศอังกฤษ อย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ ที่ยังต้องลุ้นเข้ารอบแบบอัตโนมัติ

เริ่มจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาเป็น 1 ใน 3 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครในรายการนี้ เช่นเดียวกับ ลาซิโอ และกาลาตาซาราย ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ของตาราง 7 เกม ชนะ 4 เสมอ 3 มี 15 คะแนน เกมนี้ต้องออกไปเยือน เอฟซีเอสบี หรือ สเตอัว บูคาเรสต์ จากโรมาเนีย

เกมนี้ยังต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการติดท็อป 8 เพื่อเข้ารอบแบบอัตโนมัติ สภาพทีมยังไม่มี จอนนี่ อีแวนส์, ลุค ชอว์ และเมสัน เมาท์ ที่บาดเจ็บ ส่วน มานูเอล อูการ์เต้ ต้องรอทดสอบความฟิต ที่เหลือถือว่าไม่มีปัญหาอะไร อาจจะมีการปรับทัพบางตำแหน่ง เลนี่ โยโร่ จะได้สตาร์ทในแนวรับ เช่นเดียวกับดาวรุ่งอย่าง โทบี้ คอลเยอร์ ที่จะคุมจังหวะแดนกลางร่วมกับ บรูโน่เฟอร์นานเดส พร้อมส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น ลงมาปั้นเกมรุก

ส่วนเจ้าบ้าน เอฟซีเอสบี หรือ สเตอัว บูคาเรสต์ เดิมทำผลงานได้น่าเซอร์ไพรส์ ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1 มีอยู่ 14 คะแนน ต้องการชนะเช่นเดียวกัน ถึงจะปลอดภัย ชุดนี้คุมทัพโดย อีเลียส ชาราลัมบุส เทรนเนอร์ชาวไซปรัส ไม่มี ดาริอุส โอลารู, มิฮาอิลลิซานดรู และอ็อคทาเวียน โปเปสคู ที่เหลืออยู่กันครบ วาง มาริอุสสเตฟาเนสคู, ฟลอริน ทานาเซ่, เดวิด มิคูเรสคู และดาเนี่ยลบีร์ลิเจีย เป็นตัวความหวังในเกมรุก

อีกคู่ที่ลงเล่นในเวลาเดียวกัน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์จะเปิดบ้านพบกับ เอลฟ์สบอร์ก โดย ท็อตแน่ม รั้งอันดับ 6ของตารางมีอยู่ 14 คะแนน จากการลงเล่น 7 เกมที่ผ่านมา ฟอร์มในบอลถ้วยถือว่าดี แต่ตรงกันข้ามกับในลีกเพิ่งคารังให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 เกมนี้ต้องการชนะเพื่อการันตีการคว้าท็อป 8 ทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ยังเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มีกูเยลโม่ วิคาริโอ้, มิคกี้ ฟาน เดอเฟน, โดมินิค โซลันกี้, คริสเตียน โรเมโร่, แบรนแนน จอห์นสัน และเดสตินี่ อูโดจี้ ส่วน อันโตนิน คินสกี้ไม่มีชื่อลงทะเบียนในรายการนี้ ต้องส่ง แบรนดอน ออสติน ลงเฝ้าเสา ที่เหลือจัดทัพชุดผสม โรดริโก้ เบนตานคูร์คุมแดนกลางร่วมกับ อิฟส์ บิสซูม่า และลูคัส เบิร์กวัลล์ แนวรุกวาง เดยัน คูลูเซฟสกี้ ประสานงานกับ ซน ฮึง-มิน และ มิคกี้ มัวร์

ผู้มาเยือน เอลฟ์สบอร์ก จากสวีเดน ลงเล่นมา 7 เกมชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 3 มี 10 คะแนน ยังคงได้ลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ อย่างน้อยต้องมีแต้มไว้ก่อน เกมนี้ตามรายงานไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แต่ข่าวร้ายคือการเสียกองหน้าคนสำคัญอย่าง ไมเคิ่ล ไบดู ไปให้กับ พลีมัธ อาร์ไกล์ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ

สถานการณ์ปัจจุบันมีเพียงทีมเดียวทีการันตีการผ่านเข้ารอบแบบอัตโนมัติคือ “อินทรีฟ้า-ขาว” ลาซิโอ จากอิตาลี ที่ลงเล่นไป 7 เกมชนะ 6 เสมอ 1 มี 19 คะแนน เกมสุดท้ายไปเยือน สปอร์ติ้ง บราก้าจากโปรตุเกส ผลเสมอจะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ในรอบลีกเฟสทันที

ส่วนกติกาการเข้าสู่รอบต่อไป อันดับ 1-8 จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์หรือ 16 ทีม แบบอัตโนมัติ ส่วนทีมที่จบอันดับ 9-24จะต้องไปเล่นเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือนเพื่อหาผู้ชนะอีก 8 ทีมเข้าสู่รอบน็อกเอาท์อันดับ 25-36 ตกรอบทันที ในเวลานี้มี 6 ทีมที่ตกรอบไปเป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ เอฟเค อาร์เอฟเอส (ลัตเวีย), สลาเวีย ปราก (เช็ก), มัลโม่(สวีเดน), ลูโดโกเรตส์ (บัลแกเรีย), คาราบัก (อาเซอร์ไบจาน), นีซ (ฝรั่งเศส) และดินาโม เคียฟ (ยูเครน)