“สองล้อ”ห่วงใยสุขภาพนักกีฬารุ่นจิ๋ว ปรับเปลี่ยนสนามแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถชิงแชมป์ประเทศไทยฯ ประจำปี 2568 สนามที่ 1 ไปชิงชัยกันภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ในวันที่ 23 ก.พ.68 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกินขีดมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยทั้งหนูน้อยที่เข้าร่วมแข่งขันและบรรดาผู้ปกครอง ทางด้านนักปั่นทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ทุกประเภทก็ย้ายสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมเช่นเดียวกัน
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยในหลาย ๆ ภูมิภาคประสบกับปัญหาหมอกควันอันเกิดขึ้นจากฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากฝุ่นละออง PM2.5 สามารถถูกสูดเข้าลึกถึงทางเดินหายใจและปอด ก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูก ไอ จาม มีเสมหะ หอบหืด หัวใจวายเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองตีบ และที่อันตรายที่สุดอาจถึงขั้นเป็นมะเร็ง ขณะเดียวกันสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจถึงปัญหาดังกล่าวนี้ เพราะฝุ่นละออง PM2.5 มีผลกระทบต่อการฝึกซ้อมของนักกีฬา และการแข่งขันกีฬาจักรยานในกลุ่มเด็กเล็กอย่างการแข่งขันจักรหนูน้อยขาไถ เป็นต้น
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 สนามที่ 1 จากเดิมสมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดเอาไว้ว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ศกนี้ ที่สวนกีฬากมล (เอฟบีที) เขตหนองจอก กทม. แต่ด้วยปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ดังกล่าว สมาคมฯ หวั่นเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของบรรดาหนูน้อยที่เข้าร่วมการแข่งขันซึ่งมีอายุเริ่มต้นแค่ 1 ขวบ 6 เดือน ดังนั้นสมาคมฯ จึงพิจารณาปรับเปลี่ยนสนามแข่งขันขันจากสวนกีฬากมล ไปเป็นห้อง MCC เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยเลื่อนการแข่งขันให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของเด็ก ๆ และบรรดาผู้ปกครอง
“ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากทั้งในระยะสั้นและราะยะยาว สมาคมกีฬาจักรยานฯ มีความห่วงใยของเด็ก ๆ ที่เข้าแข่งขันว่าหากต้องไปแข่งขันท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ดี และความหนาแน่นของฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐานก็จะไม่ปลอดภัย โดยพาะในเขตหนองจอกที่ยังเป็นพื้นที่สีส้ม เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเห็นสมควรว่าต้องย้ายไปแข่งขันในสถานที่ที่มีความปลอดภัยกว่า โดยสมาคมฯ ได้เลือกที่ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซี่งมีห้องโถงโล่งกว้างขวาง มีเครื่องอากาศเย็นสบายไม่ร้อนแดด ที่สำคัญทางสมาคมฯ ได้ลงทุนจัดซื้อพรมไปปูในห้อง MCC เพื่อรองรับการแข่งขันหนูน้อยขาไถ ไม่ให้เด็ก ๆ ลื่นเวลาลงแข่งขัน และป้องกันการบาดเจ็บจากการลื่นล้ม เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ทุกคน” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ส่วนการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถฯ สนามที่ 2 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ยังคงดำเนินการจัดแข่งขันในห้างสรรพสินค้าเช่นเดิม แต่จะย้ายไปแข่งขันที่ห้างเดอะมอลล์ บางแค กำหนดวันที่ 25 พฤษภาคม, สนามที่ 3 วันที่ 20 กรกฎาคม แข่งขันที่สนามสราญจิตมงคลสุข ภายในบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร, สนามที่ 4 วันที่ 21 กันยายน ที่เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และสนามที่ 5 (สนามสุดท้าย) วันที่ 12 ตุลาคม ที่สวนกีฬากมล (เอฟบีที) เขตหนองจอก กทม. โดยการแข่งขันสนามที่ 1, 2 และ 5 จะเป็นการแข่งขันในรูปแบบเรซซิ่ง ส่วนสนามที่ 3 และ 4 จะเป็นการแข่งขันรูปแบบปั๊มแทร็ก
“ขณะที่การเตรียมทีมนักปั่นทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้โยกย้ายสถานที่ฝึกซ้อมของนักกีฬาเพื่อหนีฝุ่นละออง PM2.5 เช่นเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา สำหรับประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ย้ายสถานที่ฝึกซ้อมจากสวนกีฬากมล (เอฟบีที) ไปซ้อมที่สนามสราญจิตมงคลสุข บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร, ประเภทลู่ ฝึกซ้อมที่เวโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี, ประเภทเสือภูเขาฝึกซ้อมที่เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และประเภทถนนฝึกซ้อมที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเตรียมแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะใช้เส้นทางแข่งขันที่สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข ภายในบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และเส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี