……อย่าไปหลงร่องแข้ง ที่ว่า บอร์นมัธ เป็นทีมเกมบุก
เปล่าเลย!!!!! บอร์นมัธ ไม่เคยบุกใส่ใคร แต่ทรานซิชั่น และเข้าไปกดได้อย่างว่องไววิทย์
บอร์นมัธ จะลงเล่นเกมด้วยสถิติไร้พ่าย 11 เกมในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้มา 18 เกมติดต่อกัน
นี่เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดแรกระหว่างสองทีมที่ไม่แพ้ติดต่อกัน 11 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล เอาชนะแมนฯ ซิตี้ 4-3 เมื่อเดือนมกราคม 2018
มาลองอ่านดูครับ ส่วนคลิปผมทำไว้แล้ว ก็ชมได้ที่คอมเม้นต์………
*********************
อันโดนี่ อิราโอลา วัย 42 ปี มีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในทีมเพรสซิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในสเปน เล่นด้วยการบล็อกสูงและบีบให้ทีมคู่แข่งเกิดการผิดพลาดในพื้นที่อันตราย
ชอบเสี่ยงเล่น ไม่ใช่เล่นเสี่ยง
ในอาชีพค้าแข้งกับ แอธ.บิลเบา เขาทำงานภายใต้โค้ชชั้นนำเช่น มาร์เซโล บิเอลซา และเอร์เนสโต บัลเบร์เด้
ว่ากันว่า บอร์นมัธ ที่มาถึงขั้นนี้ได้ มาจาก 2 ข้อ
1.คำสอนของบิเอลซา
2.การตีความของอิราโอลา
*******************
สไตล์การเล่นเวลานี้ชัดเจนคือจบที่ 4-2-3-1 ไม่มีนักบอลมาเป็นหลัก แต่นำระบบมาเป็นหัวใจ
วิธีการก็คือ แนวรุกทั้ง 4 คนยินดีที่จะวิ่งเข้าใส่ ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ในแนวลึกคู่แข่ง และยินดีที่จะจัดระเบียบกันใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะการเข้าเพรสแบบไม่จำเป็นต้องเข้าทั้งแผง หรือเข้าแบบเป็นจังหวะ เน้นในเรื่องสถานการณ์เฉพาะหน้า
จุดนี้แตกต่างจาก เป๊ป, อาร์เตต้า แม้กระทั่ง อาร์เน่อ ชล็อต ที่พยายามลดความเสี่ยง และพยายามจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่วุ่นวายแบบนี้ด้วยการจัดระเบียบยกแผง
ตรงกันข้ามกับ อิราโอล่า โดยสิ้นเชิง ที่เขายอมรับในความเสี่ยงที่จะถูกแก้เพรส และหลุดแบบทั้งยวง
*******************
น่าสนใจก็คือ 4 คนข้างบนไม่ว่าส่งใครลงมากลับทำได้ดี
เกมล่าสุด ดันโก้ อ็อตตาร่า ยิงแฮททริค เล่นกับนักบอลอินฟอร์มอย่าง จัสติน ไคลเวิร์ต, แอนตวน เซเมนโย่ และเดวิด บรู๊กส์
เวลานี้ เอวานิลซอน, เออร์เนส อูนาล, ลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า และมาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ บาดเจ็บ
ขณะที่ตรงกลางนั้น ไรอัน คริสตี้ กับ ไทเลอร์ อดัมส์ เล่นเป็นหลัก สลับกับ ลูวิส คุ้ก ที่ตอนนี้ไปเล่นแบ๊กขวา แทน เจมส์ ฮิลล์ กับ อดัม สมิธ ที่เจ็บ โดยเล่นมา 3 เกม
อิลญ่า ซาบาร์นยี่, ดีน ฮุยจ์เซ่น และมิลอส เคอร์เคซ จองสัมปทานในแนวรับ
*******************
ว่ากันถึงเรื่องเล่นที่ไม่เล่นๆ
การเล่นเกมเพรสซิ่งของ อิราโอล่า นั่นคือ เล่นพร้อมกัน 2 แบบทั้งการประกบตัวแบบ “แมน ทู แมน” และคุมโซนได้ด้วย
ซึ่งนักวิเคราะห์ที่อังกฤษ เรียกสูตรนี้ว่า ‘Hybrid pressing'
ไม่ใช่แค่ บอร์นมัธ ทีมเดียวที่เล่นวิธีนี้ แต่เป็นทีมที่ทำได้มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
วิธีบอลคือตัดแพลนเกมให้เหลือ 2 ชุด นั่นคือ รับ 6 คน และบุก 4 คน
และแต่ละคนวิ่งเร็วมากในแทบจะทุกตำแหน่ง
แล้วหัวใจของมันคืออะไร?!?!?
*******************
หลักใหญ่ให้ 3 ข้อ ก็คือ 1.วินัย 2.เข้าใจ และ 3.วัยของนักบอล
1.วินัย ที่คุณมีต้องเต็มเปี่ยม การเล่นแบบนี้ต้องทำตามคำสั่งของโค้ช และเป็นอีกทีมที่ “เล่นเพื่อราคาทีม” มากกว่า “เล่นเพื่อราคาตัวเอง”
2.เข้าใจ ในแทคติคที่แพลนมาจากบ้าน คุณภาพนักเตะเป็นรองจะต้อง “เล่นเพื่อทีม” จะต้อง “เล่นเพื่อกันและกัน” เป็นลำดับแรก
3.วัยของนักบอล จุดนี้สำคัญ หากคุณจะเล่นสไตล์แบบนี้ ต้องสด ต้องฟิต และความหนุ่มช่วยได้
*******************
ไม่แปลกเมื่อมันพอดิบพอดีในคุณภาพที่ตัวเองมี
ไม่ว่า บอร์นมัธ จะเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บมากมาย ณ เวลานี้ 9 คนในเกมถล่ม ฟอเรสต์ 5-0 พวกเขาใช้ 3 ข้อนี้ได้อย่างน่าสนใจ
ทีนี้มาถึงเรื่องตัวเลขที่ปฏิเสธไม่ได้ นั่นก็คือ บอร์นมัธ อยู่ท็อปของพรีเมียร์ลีก หลายอย่างแบบน่าตกใจ
พวกเขาเข้ากดดันคู่แข่ง หรือ Counter pressures 1,329 ครั้ง เป็นอันดับ 1
ระยะทางการวิ่งต่อเกม 112.3 กิโลเมตร เป็นอันดับ 1
การแย่งบอลจากคู่แข่งในแดนบน แล้วมาสร้างเป็นโอกาสยิง 45 ครั้ง เป็นอันดับ 1
นอกจากนี้ ทีมยังสปรินท์มากสุดเป็นอันดับ 2 และ กดดันจนคู่แข่งเสียการครองบอล 653 ครั้ง เป็นอันดับ 2 ในลีก
อายุเฉลี่ยของบอร์นมัธคือ 25.1 ปี ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีก
ซึ่งเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับปรัชญาฟุตบอลของอิราโอลา
*******************
เขาอยู่กับทีมปีที่ 2 ปรับเอาผู้เล่นที่ไม่ต้องการออกไปทั้งขายทัั้งยืม 26 คน หนึ่งในนั้นคือขาย โดมินิค โซลันกี้ 65 ล้านปอนด์ให้สเปอร์ส และนำเข้ามาใหม่ 12 คน ใช้เงินไป 90 ล้านปอนด์
บอร์นมัธ ไม่แพ้ใครมาติดต่อกันถึง 12 เกม นับตั้งแต่เสียทีให้กับ "นกนางนวล" ไบรท์ตัน 1-2 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2024 สถิติในบอลลีก ชนะ 11 เสมอ 7 แพ้ 5 เกม มี 40 คะแนน จาก 23 เกม
ตั้งแต่นัดที่ 13 เป็นต้นมา พวกเขาอยู่เลขตัวเดียวมาตลอด สูงสุดเคยอยู่ที่ 5 เวลานี้อยู่อันดับ 7
นัดต่อไปพวกเขาจะดวลกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูง
สถิติการพบกัน ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ บอร์นมัธ ตลอดกาล เตะ : 23 ลิเวอร์พูล ชนะ : 18 เสมอ : 3 และบอร์นมัธ ชนะ : 2
*******************
จับใจและไตปลาได้ว่า…….
ทั้งหมดผมไม่ได้บอกเลยว่า บอร์นมัธ เก่งมาก, จะล่าพื้นที่ยุโรป หรือ จะชนะ ลิเวอร์พูล
แต่นี่คือทีมที่สร้างขึ้นมาจากทีมที่ไม่มีอะไร จนมีอะไรให้ทุกคนได้เห็น
มีสิ่งที่หลายทีมต้องหันกลับมามอง ไม่ใช่แค่ชนะ ฟอเรสต์ แต่ทีมฟุตบอลยุคปัจจุบัน โค้ชรุ่นใหม่ อาจจะทำให้เราดูฟุตบอลยุคต่อไปแล้วเหนื่อยหืดหอบกว่านักเตะ
วินัยในเกม, ความเข้าใจในเกม และวัยของนักฟุตบอล หากทุกอย่างเปิดถ้วยแทงมาแล้วเข้าเป้าเป๊ะ และศีลเสมอกันแบบนี้ทั้งโค้ชทั้งนักเตะ
แฟนบอลก็มีความสุขที่ได้เห็น ก็เท่านั้นเอง
……สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 23 เกมในทุกรายการ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะ ชนะ 18 เสมอ 3 ส่วน บอร์นมัธ ชนะ 2
หนสุดท้ายที่ บอร์นมัธ ชนะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 เกมนั้นเปิดไวตาลิตี้ ชนะ 1-0 จากประตูชัยของ ฟิลลิป บิลลิ่ง
บอร์นมัธ เป็นทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่ง 11 เกม ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 2 พวกเขาเสียไปเพียง 7 ประตูเท่านั้น ถือว่าน้อยที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ เคยเสียสูงสุด 2 ลูกในเกมที่พ่ายให้กับ ไบรท์ตัน 1-2 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2024
ส่วน ลิเวอร์พูล คือทีมที่ยิงประตูนอกบ้านได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้จำนวน 30 ประตู มากกว่าครึ่งที่ทำได้ 54 ประตู และยังคงเป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ใครนอกบ้าน 11 เกมชนะ 8 เสมอ 3 เก็บได้ 27 คะแนน มากที่สุด
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า, ลูอิส คุ๊ก, อิลลิย่า ซาบาร์นยี่, ดีน ฮุยเซ่น, มิลอส เคอร์เคซ, ไทเลอร์ อดัมส์, ไรอัน คริสตี้, เดวิด บรู๊คส์, จัสติน ไคลเวิร์ต, อองตวน เซเมนโย่ และดานโก้ ควาตตาร่า
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และหลุยส์ ดิอาซ
สกอร์ที่คาด : บอร์นมัธ 1-3 ลิเวอร์พูล
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี