ลิเวอร์พูล เคยผ่าน สเปอร์ส แล้วประสบความสำเร็จครองแชมป์รายการแรกยุค เยอร์เก้น คล็อปป์ ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน
ลิเวอร์พูล ใช้ถ้วยบิ๊กเอียร์ในการต่อยอดความสำเร็จได้อย่างน่าสนใจมาก เพราะนับจากการได้แชมป์ครั้งนั้นเมื่อปี 2019 เป็นต้นมา
ลิเวอร์พูลกวาดถ้วยทุกใบที่ต้องการ
ตรงกันข้ามกับสเปอร์ส ที่ทำสนามขึ้นมาใหม่แล้วต้องการได้ถ้วยไปประดับสโมสร เมื่อไม่ได้ในครั้งนั้น พวกเขาดูเหมือนว่าจะหาทางกลับมาได้ยากเย็นแสนเข็นในหัวใจ
มีโอกาสใกล้เคียงเหมือนกันก็คือเข้าชิงถ้วยใบนี้ แต่ดันทำบ้าบอคอโป่งเมื่อปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเข้าชิงแล้วไปแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ทำให้พวกเขาต้องรอคอยแชมป์ทุกรายการมาจนถึงวันนี้ 16 ปีเข้าไปแล้ว......
มาในค่ำคืนนี้ ตี 3 ทั้งทั้งสองทีมจะต้องมาดวลกันในศึกน้าแอ๊ดคัพ รอบตัดเชือก นัดที่ 2 โดยที่ สเปอร์ส กุมความได้เปรียบมาก่อนหลังจากชนะได้ที่เดอะ เลน 1-0
แต่นั่นก็ไม่ใช่งานง่ายของ สเปอร์ส ที่ต้องมาเยือนแอนฟิลด์ แต่ว่า ลิเวอร์พูล เองก็อย่านึกว่าจะกินขนมกรุบนะครับ
สถิติการเจอกันทั้งหมด 185 ครั้ง ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะ ชนะ 91 เสมอ 44 และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ชนะ 50 ส่วนรายการนี้ดวลกันมา 9 ครั้ง “ไก่เดือยทอง” ทำได้ดีกว่า ชนะ 5 เสมอ 2 และ “หงส์แดง” ชนะ 2
ว่ากันถึงเกมนี้กันดีกว่า
๐ การจัดตัวผู้เล่น
ผมเชื่อมั่นว่า ไม่มีการกั๊กแน่นอน ทั้งสองทีมย่อมใส่เต็มดอกแบบไม่ต้องสงสัย
อย่าพูดไปเลยว่า “ส่งสำรองลงเถอะ” เพื่อ “ไปเล่นถ้วยอื่น” คุณห้ามโค้ชทั้งสองคนนี้ไม่ได้แน่ ไม่มีทางเลย คุณจะเห็นชุดใหญ่ไขว้กันแบบเต็มตีนเตี่ย
ฟุตบอลยุคนี้ “ถ้วยไหนก็สำคัญ” เพราะมันต่อยอดธุรกิจต่าง ๆ ได้ เนื่องจากมนุษย์ขี้เหม็นยุคฉาบฉวย เห็นความสำเร็จได้ที่ไหนล่ะ
มันหอมมันหวลชวนดอมดมไปซะทุกขุม
ถ้วยเหล่านี้สำคัญทั้งหมด มันคือความสำเร็จที่จับต้องได้ แต่ถ้าจะด้อยค่าก็ต้องถามว่า ตัวคุณมีราคากันขนาดไหนหนอ????
การได้ถ้วยแรกของซีซั่นมันเท่ห์จะตาย และมันอาจจะช่วยให้ “ลดบางอย่าง” ในกระแสเลือดของทั้งองคายพ
๐ อีกหนึ่งมุมเมื่อไม่มี“เทรนต์”
ลิเวอร์พูล กับเส้นทางมีลุ้นอยู่ทุกรายการที่บางคนมองว่าถ้าได้ถ้วยนี้แล้วกลัวจะเป็นแบบปีก่อน แต่สถานการณ์มันต่างกันออกไป
เนื่องจากปีนี้นักฟุตบอลเจ็บก็จริงแต่ไม่ได้เจ็บเป็นแผง มาในประเภทสลับกันเจ็บมากกว่า และตอนนี้สภาพทีมเกือบจะ 100% เหมือนกัน ยกเว้นแค่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
การเสียเทรนไม่ใช่ผลดีแน่นอน เนื่องจากฟุตบอลที่เปิดเกมรุกจากแนวลึก ไม่มีใครทำได้อย่างเขา ที่จ่ายบอลได้ดีมากในตำแหน่งมุมที่ยากจะทำแบบนั้นทั้งไกลทั้งใกล้
เมื่อลงไม่ได้ และกรณีที่ คอนอร์ แบร๊ดลี่ย์ ได้ลงเล่นนั้น สิ่งหนึ่งที่จะทดแทนได้ก็คือการรับมือกับซน ฮึงมิน
เนื่องจากสเปอร์นั้นเล่นบอลด้านข้างแล้วก็ใช้ ซน เป็นคนที่วิ่งทะแยงกับวิ่งเสียบเ พราะฉะนั้นแล้วการยืนไลน์ตรง 4 คนของกองหลังลิเวอร์พูลน่าสนใจ
อิบราฮิมา โกนาเต้ จะเข้าไปสอดสกัดแบบเดินหน้าวิ่งเข้าใส่ไม่ใช่ขยับออกข้าง ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะตัวเค้าตั้งแต่หายบาดเจ็บกลับมายังเล่นได้ไม่เหมือนเดิม โคเวอร์ตำแหน่งแบ๊กยังไม่ได้เท่าเดิม
เกมรุกอาจเสียไป แต่เกมรับจะดีมากน้อยแค่ไหน นั่นเป็นเรื่องของเกม แต่จังหวะมันเหมาะสมกับสถานการณ์
๐ หัวใจคือเกมรับและรัดกุม
การที่ สเปอร์ส ได้ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน กลับมาคุมแนวรับอีกครั้งถือว่าเป็นโชคดีของพวกเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาการเสียประตูง่ายได้ประตูยากมันเกิดขึ้น จากการที่ทุกคนต้องพะวงในเกมรับ จนเกมของ ไก่เดือยขาดความต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามในช่วงสองเกมที่ผ่านมา เราจะสังเกตได้ว่า “ลุงแองค์” แกไม่ได้บ้าดีเดือดเหมือนกับที่ผ่านมา ดูมีความลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งเกมนี้ สเปอร์ส ไม่จำเป็นต้องเปิดเกมรุกแบบบ้าเพื่อต้องการประตู และก็ไม่ต้องรับต่ำจนเกินไป เพียงแต่เล่นแบบประคองสถานการณ์ หาวิธีวิ่งเสียบเข้าช่องและการทิ้งยาวของกองหลังสถานการณ์มันดูเหมือนบีบไปทางลิเวอร์พูลมากกว่าที่ต้องเดินหน้าเข้าใส่
สิ่งสำคัญก็คือ สเปอร์ส เองอย่าสติแตก เมื่อเจ้าบ้านชวนทะเลาะ ก็ต้องเก็บคองอเข่าปิดเป้าเข้ามุมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าไปลุยตามรับรองว่า โดนถอนขนแน่นอน
๐ ปรีวิวเดอะแมทช์
ลิเวอร์พูล เลกแรกบุกไปพ่ายมา 0-1 ส่วนผลงานในลีกบุกเอาชนะ เอเอฟซี บอร์นมัธ 2-0 ทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต ระบุแล้วว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังมีอาการตึง จะต้องพักไปเลยเพราะมีโปรแกรมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ส่วน โจ โกเมซ ก็ยังไม่สมบูรณ์
การปรับทีมบางตำแหน่งอาจจะเกิดขึ้นได้ตรงด่านสุดท้าย ควีวิน เคลเลเฮอร์ หรือ อลิสซอน เบ๊คเกอร์ จะได้เล่น ซึ่งอาจเป็น เบ๊คเกอร์ เลยก็ได้ ขณะที่ คอนอร์ แบร๊ดลีย์ และคอนสแตนตินอส ซิมิกาส น่าจะได้โอกาสลงเล่นแบ๊ก ส่วนที่เหลือถือว่าเต็มข้อ ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบสไล, โคดี้ กัคโป และลุยส์ ดีอาซ
ฝั่งผู้มาเยือน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ตุนความได้เปรียบจากชัยชนะในเลกแรก ส่วนผลงานในลีกเพิ่งปลดล็อกบุกเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้ 2-0 ทีมของ แองจ์ ปอสเตโคกลู เสริมทัพได้อย่างน่าสนใจ คว้าตัว เควิน ดานโซ่, อักเซล ดิซาซี่ และมาธิส แตล ในช่วงโค้งสุดท้าย
เกมนี้จะไม่มี ราดู กราดูซิน ที่บาดเจ็บหนักปิดเทอมทั้งซีซั่น รวมไปถึง คริสเตียน โรเมโร่, โดมินิค โซลันกี้, เดสตินี่ อูโดจี้ และเจมส์ แมดดิสัน คาดว่า มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน ที่ถูกพักในเกมที่แล้วจะกลับมาสตาร์ทตัวจริงในแนวรับ แดนกลางถอย เดยัน คูลูเซฟสกี้ คุมจังหวะเกมร่วมกับ อิฟส์ บิสซูม่า และโรดริโก้ เบนตานคูร์ โดยมี ไมค์กี้ มัวร์, ริชาร์ลิซอน และซน ฮึง-มิน ประสานงานเกมรุก
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์, คอนอร์ แบร๊ดลีย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป และลุยซ์ ดีอาซ
สเปอร์ส (4-3-3) : อันโตนิน คินสกี้, เปโดร ปอร์โร่, อาร์ชี่ เกรย์, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, เบน เดวีส์, เดยัน คูลูเซฟสกี้, อิฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานคูร์, ไมค์กี้ มัวร์, ริชาร์ลิซอน และซน ฮึง-มิน
ว่ากันตามเชิง ถ้าไม่ยิงทิ้งยิงขว้างกันเอง ลิเวอร์พูล น่าจะทะลุได้ เพราะอย่าลืมว่า แองค์ สไตล์ ไม่ชอบเล่นเกมรับ และถ้าถูกบีบมาก ๆ เขาก็จะพยายามจะเอาคืน
สำคัญคือการมีตัวเปลี่ยนที่คุณภาพห่างจากตัวจริง มันอาจจะทำให้พวกเขาเป็นรองในเรื่องของสถานการณ์ในเกม และต้านไม่อยู่
ภาพจากเกมแรกไม่น่าจะมีอีกต่อไป........ยกเว้นผีเข้า คินสกี้ อีกสักรอบ!!!!!!!
สกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล 3-1 สเปอร์ส
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี