“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดบ้านลงเล่นรอบรองชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพนัดที่ 2 ย้ำชัยเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 2-0 ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
แข้ง “สาลิกา” มุ่งสู่เวมบลีย์ ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวมสองนัดขาดลอย 4-0 รอพบผู้ชนะระหว่าง ลิเวอร์พูล หรือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จะลงแข่งขันเลกสองเมื่อคืนวันพฤหัสบดี
เจ้าถิ่นออกนำในครึ่งแรก 1-0 จาก จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ นาทีที่ 19 คลายความกดดัน ก่อนจะมาได้ประตูที่สองในช่วงต้นครึ่งหลังจากการเพรสแดนบน บีบจนทำให้อาร์เซน่อล เซตบอลเสียและเป็น แอนโธนี่ กอร์ดอน ที่ซัดเข้าไปนาทีที่ 52 พอสกอร์รวมโดนนำห่าง 4-0 มิเกล อาร์เตต้า เหมือนยกธงขาวตัดสินใจถอดสอง แกนหลักอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และเลอันโดร ทรอสซาร์พักทันที
เท่ากับฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิ่ล ดวลกับ อาร์เซน่อล มา 3 เกม ชนะได้ทั้งหมด และไม่เสียประตูเลย พรีเมียร์ลีก(เหย้า) ชนะ 1-0, คาราบาว คัพ (เยือน) ชนะ 2-0,คาราบาว คัพ (เหย้า) ชนะ 2-0
ภายหลังเกม มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ยอมรับขาดความเฉียบคมจนตกรอบตัดเชือก คาราบาว คัพ อย่างเจ็บปวด
“เรามีความคาดหวังอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าจะพลิกสถานการณ์ แต่เราไม่สามารถสร้างโมเมนตัมโดยเฉพาะช่วงครึ่งแรก คู่แข่งเกือบทำสกอร์ตั้งแต่จังหวะแรก จากนั้นเราสร้างโอกาสสำคัญบ้างโดย โอเดการ์ด แต่เราไม่สามารถฉกฉวย แล้วจังหวะต่อมา คู่แข่งก็
ยิงประตูได้ ซึ่งทำให้เกมเปลี่ยนชัดเจน”
“สถานการณ์แบบนี้ เราต้องยิงคืนให้เร็วที่สุดครึ่งแรกเรามีโอกาสจะแจ้งอีกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ ครึ่งหลังเราเจอความยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ เราไม่สามารถสร้างโอกาสในพื้นที่สุดท้ายได้มากพอ”
“วันนี้เรามีความไม่มั่นคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกมเริ่มชุลมุนและคู่แข่งเล่นฟุตบอลไดเร็กท์ ปกติแล้วเราจะนิ่งกว่านี้ แต่ทั้งสองเลก คู่แข่งมีความเฉียบคมในเขตโทษอย่างแท้จริง และโดยรวมนั่นคือความแตกต่าง”
ซึ่งจากนี้ 10 วันข้างหน้า อาร์เซน่อล เว้นว่างจากการแข่ง และพฤหัสนี้จะบินไปเก็บตัวต่างแดนที่ ดูไบ เพื่อเตรียมกลับมาเล่น พรีเมียร์ ลีก เยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป
ทั้งนี้สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 1955 ในการครองแชมป์เอฟเอ คัพ หรือเมื่อ 70 ปีมาแล้ว ส่วนรายการนี้ไม่เคยคว้าแชมป์มาก่อน หลังจากเข้าชิง 2 ครั้งแพ้หมด โดยเฉพาะหนล่าสุดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2022-23 พ่ายให้กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก 0-2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี