การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ เลกแรก ประจำค่ำคืนวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568มีลงทำการแข่งขัน 4 คู่ โดยเกมบิ๊กแมทช์ในเวลา 03.00 น.“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดเอติฮัต สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์เก่า และแชมป์ 15 สมัย
เจ้าถิ่น แมนฯซิตี้ พักแกนหลักในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ ในการบุกไปเฉือน เลย์ตัน โอเรี้ยนท์ มา 2-1 ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใส่ชื่อของ โรดรี้ ที่บาดเจ็บยาวไว้ในการลงทะเบียนครั้งล่าสุด แต่เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ เช่นเดียวกับผู้เล่นหลายรายที่ต้องรอทดสอบความฟิตไล่ตั้งแต่ เอแดร์ซอน, นาธาน อาเก้, เฌเรมี่ โดกู และตัวใหม่อย่าง นิโก้ กอนซาเลซ คาดว่าบรรดานักเตะที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมดยึดระบบ 4-1-4-1 มาเตโอ โควาซิซ คุมแดนกลาง แนวรุกยืนแบบหน้ากระดานนำโดย ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และโอมาร์ มาร์มูช โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์เป็นหน้าเป้า
ฝั่งผู้มาเยือน เรอัล มาดริด เพิ่งเปิดบ้านเสมอกับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ในเกมดาร์บี้แมทช์แห่งเมืองหลวง 1-1 สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในลีกสูสีแบบสุด ๆ ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติมีปัญหาในแนวรับเมื่อต้องรอทดสอบความฟิตอันโตนิโอ รือดิเกอร์ ส่วน เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิดอลาบา และดานี่ การ์บาฆาล ยังเดี้ยงอยู่ถ้าลงไม่ไหวจำเป็นต้องถอย ออเรเลียงชูอาเมนี่ มาคู่กับ ราอูล อเซนซิโอ้ ตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าพร้อมลงเล่น ใข้ความสดของ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และดานี่ เซบาญอส มาบี้ตรงกลาง แนวรุกอันตรายสุดๆ วาง โรดริโก้ ประสานงานกับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ และคีลิยัน เอ็มบัปเป้
สถิติการเจอกันทั้งหมด 12 ครั้ง นับเฉพาะในเวลา 90 นาที แมนฯซิตี้ ชนะ 4 เสมอ 5 และ เรอัล มาดริด ชนะ 3
สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 2-2เรอัล มาดริด
อีกคู่ลงเล่นในเวลาเดียวกัน 03.00 น.สปอร์ติ้ง ลิสบอน จากโปรตุเกสจะเปิดบ้านพบกับ “เสือเหลือง” โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี โดย เจ้าถิ่นเปลี่ยนโค้ชมา 2 ครั้งในฤดูกาลนี้ หลังเสียรูเบน อโมริม ให้กับ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันคุมทัพโดย รุย บอร์เกส แม้จะมีหลุดฟอร์มไปบ้าง แต่พวกเขายังคงนำจ่าฝูงในลีก อย่างไรก็ตามเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มอร์เท่น ยูลมันด์ มิดฟิลด์โคนมที่ติดโทษแบน รวมไปถึง นูโน่ ซานโตส, เปโดรกอนคัลเวซ, ชูเอา ซิโมเอส และเกนี่คาตาโม่ ที่บาดเจ็บ ต้องดันเอา เซโน่เดบาสต์ จากแบ็คขึ้นมาตัดเกมแดนกลางร่วมกับ ฮิเดมาสะ โมริตะ ส่วนแนวรุกนำโดย ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, ดาเนี่ยลบรากานก้า, จิโอวานี เควนดา และวิคเตอร์ เกียวเคเรส
ทีมเยือน เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือกลางฤดูกาล ตะเพิดลูกหม้ออย่าง นูริ ซาฮิน ออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งให้ นิโก้ โควัช เข้ามาคุมทีมประเดิมเกมแรกด้วยการพ่ายให้กับ“ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท 1-2 เกมนี้ยังไม่มีนิคลาส ซือเล่ และเฟลิกซ์ เมช่าที่บาดเจ็บ รวมไปถึงตัวใหม่ที่เพิ่งยืมมาอย่าง คาร์นีย์ ชุควูเมก้า ที่ไม่สมบูรณ์ด้วย ข่าวดีน่าจะได้ นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค กลับมาคุมแนวรับ ทำให้ เอ็มเร่ ชานจะกลับไปประจำการแดนกลางเล่นร่วมกับ ปาสกาล กรอสส์ โดยมี คาริม อเดเยมี่ ประสานงานเกมรุกกับ ยูเลี่ยน บรันด์ท และเจมี่ ไบโน-กิตเทนส์ ส่วนหน้าเป้าใช้ แซร์อู กีราสซี่ เหมือนเดิม
สถิติการเจอกันทั้งหมด 4 ครั้งไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ ดอร์ทมุนด์ เหนือกว่าชนะ 3 ส่วนสปอร์ติ้ง ลิสบอน ชนะ 1
สกอร์ที่คาด : สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-2 ดอร์ทมุนด์
สำหรับโปรแกรมอีก 2 คู่ แบรสต์ ของฝรั่งเศส จะพบกับ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมงเพื่อนร่วมชาติ เวลา 00.45 น.และยูเวนตุส จากอิตาลี พบ พีเอสวีไอนด์โฮเฟ่น จากเนเธอร์แลนด์ เวลา 03.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี