จากการที่ อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดนใบแดงในช่วงจบเกมที่ทีมบุกไปเสมอกับ “ทอฟฟี่เมน” เอฟเวอร์ตัน แบบสุดดราม่า 2-2 ที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีกรายงานในเว็บไซต์ว่า ชล็อต จะถูกแบน 2 นัด แต่ต่อมาก็ถูกลบทิ้ง!!!!!!!
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป และเขาจะถูกลงโทษจากเจ้าหน้าที่ถือกฎของฟุตบอลหรือไม่?
ท้าวความกันหน่อยว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เกมวันพุธจบลงด้วยความโกลาหล เมื่อ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ยิงประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 98 ทั้งที่ป้ายทดเวลาระบุว่า 5 นาที
จากนั้น อับดูลาย ดูกูเร่ ของเอฟเวอร์ตัน และเคอร์ติส โจนส์ ของลิเวอร์พูล ก็ถูกไล่ออกจากสนามหลังจบเกม หลังจากได้รับใบเหลืองใบที่สอง เนื่องจากปะทะกัน หลังจาก ดูกูเร่ นั้นไปดีใจต่อหน้าแฟนบอลลิเวอร์พูล
ถามว่าเหมาะหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า มิควร เพราะมันเป็นชนวนได้
จากนั้น ชล็อต ยังโดนไล่ออกพร้อมกับ ซิปเค่ ฮูลชอฟฟ์ ผู้ช่วยของเขา หลังจากมีการยืนกรานว่าประตูของ ทาร์คอฟสกี้ ควรจะต้องถูกริบเพราะเป็นการทำฟาวล์ก่อนจะถึงจังหวะนั้น
กุนซือชาวดัตช์เดินเข้าไปในสนามเมื่อหมดเวลาการแข่งขันและพูดคุยกับผู้ช่วยผู้ตัดสินคนหนึ่งก่อนจะจับมือกับไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน และจากนั้นก็แจกใบแดงให้ ชล็อต ทันที
ผู้เชี่ยวชาญการอ่านปากอย่าง “พี่โต๋” ไม่ใช่ซิ!!!! “เจเรมี ฟรีแมน” ได้เปิดเผยกับ เดลี่เมล์ ว่า สิ่งที่ ชล็อต พูดกับ โอลิเวอร์ ทั้งก่อนและหลังถูกไล่ออกที่กูดิสัน พาร์ค จากที่เห็น 3 คลิป ก็คือ ชล็อต พูดว่า “นี่เป็นเกมที่ยอดเยี่ยม”
จากนั้นทั้งสองคนจับมือกัน โดย ชล็อต ดูเหมือนจะดึงมือ โอลิเวอร์ เข้าหาตัวของเขา ก่อนที่ โอลิเวอร์ จะรีบควักใบแดงจากกระเป๋าของเขาแล้วแจกให้ ชล็อต ทันที
มีการเปิดเผยว่า ชล็อต ดูจะงง ๆ แล้วตอบกลับว่า ‘เฮ้ย!!! คุณให้ใบแดงกับผมเหรอ? ผมจะตรวจสอบในภายหลัง อ๋อ…นี่มันเรื่องของผมกับคุณใช่ไหม?'
กัปตันทีมลิเวอร์พูล “บุญเบิ้ม” เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยังได้โต้แย้งกับผู้ตัดสินและ ดูเหมือนจะยืนยันว่า ใบแดงนั้นเกี่ยวข้องกับ “การดึง” ในระหว่าง “การจับมือ”
ฟาน ไดจ์ค กล่าวว่า 'เฮ้ ไมเคิล นั่นไม่ใช่การดึง....ไมเคิล นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว'
ขณะที่อีกคลิประบุว่า ชล็อต กำลังถาม โอลิเวอร์ ว่า "เราจะคุยกันทีหลังไหม" ซึ่งมาจากเรื่องของการตัดสิน
.........ตามกฎแล้ว หากคุณโดนใบแดง นั่นหมายว่าทั้ง ชล็อต และฮัลชอฟฟ์ จะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อหลังการแข่งขัน
******************************
ประเด็นต่อมาคือ พรีเมียร์ลีก ยืนยันช่วงเช้าวันพฤหัสบดีว่า ชล็อต จะถูกแบนทันที 2 เกม
พรีเมียร์ลีก เขียนบทความในเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า "ผู้เล่นคนใดที่ถูกพักการแข่งขัน" หนึ่งในนั้นคือ ชล็อต ได้ถูกไล่ออก เนื่องจากใช้คำพูดที่หยาบคาย ดูหมิ่น หรือหยาบคาย
มีการระบุเอาไว้ชัดเจนอีกว่า ชล็อต จะถูกแบน 2 นัดห้ามคุมทัพตรงทัชไลน์ หรือที่ข้างสนาม
ข้อความดังกล่าวเผยแพร่อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกลบออกไป?!?!?!?
หน้าที่ตรงนี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ เป็นองค์กรหลัก ได้ระบุว่าจำเป็นต้องตรวจสอบรายงานของ ไมเคิล โอลิเวอร์ ก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่
เอฟเอ มีเวลาดำเนินการ 3 วันทำการ ซึ่งหมายความว่า อาจต้องรอจนถึงเกมพรีเมียร์ลีกกับ วูล์ฟส์ ที่แอนฟิลด์ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งมีคิวเตะ 3 ทุ่ม
ชล็อต เคยโดนแบนห้ามลงสนามข้างสนามในเกมคาราบาวคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศกับเซาแธมป์ตันเมื่อเดือนธันวาคม หลังจากรับใบเหลือง 3 ใบ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลร้ายแรงขึ้นหากนำมา “พิจารณาร่วม” ในระหว่างการไต่สวน
ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นหาก ชล็อต ถูกแบนจริง ๆ
หากว่า ชล็อต ถูกแบนห้ามคุมทีมที่ข้างสนาม เขาจะถูกแบนจากม้านั่งสำรองและข้างสนามตั้งแต่ 2 ชั่วโมงก่อนเริ่มเกม
ไปจนถึง 2 ชั่วโมงหลังจบเกม
นั่นหมายความว่า กุนซือชาวดัตช์คนนี้ จะไม่สามารถดูแลการวอร์มอัพก่อนเกมได้ ที่สำคัญก็คือ ตัวเขาจะไม่สามารถสื่อสารกับทีมงานหรือผู้เล่นของเขาโดยตรงระหว่างเกมได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาจะได้รับอนุญาตให้สื่อสารกับทีมงานของเขาทางโทรศัพท์ หรือ ตัวแทนที่เรียกว่า 'runner'
นอกจากนี้ เขายังพูดคุยกับนักเตะของเขาได้ปกติในช่วงก่อนเกม, ระหว่างพักครึ่งเวลา และหลังเกมได้จากภายในห้องแต่งตัว
รวมถึงกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อได้ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน
รุงรังดีจังเลยเนอะ
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี