การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมทช์เดย์ที่ 26 ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 มีลงฟาดแข้ง 2 คู่ ถือว่าน่าสนใจทั้งหมด เริ่มจากคู่แรกในช่วงเวลา 21.00 น.เป็นการช่วงชิงพื้นที่ฟุตบอลยุโรป “สาลิกาดง”นิวคาสเซิ่ล จะพบกับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

เจ้าถิ่นบุกไปพ่ายให้กับ แมนฯซิตี้ แบบเละเทะในเกมล่าสุด 0-4 ทำให้พวกเขาหล่นไปรั้งอันดับ 7 ของตาราง เกมนี้ยังคงไม่มี จามาล ลาสเซลล์ส และโชลินตอน ที่บาดเจ็บ ส่วน สเวน บ็อตมัน รอทดสอบความฟิต ที่เหลือพร้อมลงสนามได้หมด แดน เบิร์น ยังเล่นเซ็นเตอร์คู่กับ ฟาเบียน แชร์ แดนกลางส่งดาวรุ่งอย่าง ลูอิส ไมลีย์ ลงไปคุมจังหวะเกมร่วมกับ ซานโดร โตนาลี่ และบรูโน่ กิมาไรส์ โดยมีเจค็อบ เมอร์ฟีย์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค และแอนโธนี่ กอร์ดอน เป็นสามประสานในแนวรุก

ฝั่งผู้มาเยือนยังเกาะอยู่อันดับ 3 ของตารางด้วยการมี 47 คะแนน เกมนี้ทีมของ นูโน่เอสปิริโต้ ซานโต ถือว่าสมบูรณ์ขาดแค่ ไตโว่ อโวนิยี่ ที่บาดเจ็บ แต่ปกติก็นั่งสำรองอยู่แล้ว นอกนั้นเรียกว่าอยู่กันแบบครบคัน ยึดระบบการเล่น 4-2-3-1 นำโดย ดานิโล่, เอลเลียตต์แอนเดอร์สัน, แอนโธนี่ เอลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และคริสวู้ด ที่ฤดูกาลนี้ซัดไปแล้ว 18 ประตู

สกอร์ที่คาด : นิวคาสเซิ่ล 2-1 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

จากนั้นในเกมซูเปอร์บิ๊กแมทช์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์นี้ลงเล่นเป็นคู่ดึกของคืนวันอาทิตย์ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดเอติฮัต สเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเวลา 23.30 น.

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งกระเด็นตกรอบเพลย์ออฟยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก บุกไปพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 3-1 กลับมาโฟกัสในลีกแบบเต็มตัวปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ของตาราง มี 44 คะแนน เกมนี้ยังไม่มี โรดรี้ และมานูเอลอคานจี ส่วน เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ที่ไม่ได้ลงเล่นเมื่อกลางสัปดาห์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอมรับว่ายังไม่ชัวร์ว่าจะฟิตสำหรับเกมนี้หรือไม่ รวมไปถึงจอห์น สโตนส์ ด้วย ที่เหลือไม่น่ามีปัญหาอะไรมาในระบบ 4-1-4-1 นิโก้ กอนซาเลซ คุมแดนกลาง โดยมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา คอยขับเคลื่อนเกมรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น, ซาวินโญ่ และโอมาร์ มาร์มูช ส่วนหน้าเป้าเชื่อว่าฮาลันด์ น่าจะผ่านความฟิตสตาร์ทตัวจริง

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล นำจ่าฝูงของตารางมี 61 คะแนน เพิ่งลงเล่นเกมกลางสัปดาห์ด้วยการบุกไปเสมอกับ “สิงห์ผงาด” แอสตันวิลล่า 2-2 ส่วนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จับสลากประกบคู่มาแล้วเจอของแข็งอย่าง ปารีส-แซงต์แชร์กแมง เกมนี้ยังไม่มี โจ โกเมซ และคอนอร์ แบร๊ดลีย์ ที่บาดเจ็บ ส่วน โคดี้ กัคโปหายแล้ว แต่ยังต้องลุ้นเช็คความฟิตนอกนั้นอยู่กันครบ มาในระบบ 4-2-3-1ไรอัน กราเฟนแบร์ช คุมแดนกลางร่วมกับอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แนวรุกใช้ โมฮาเหม็ดซาลาห์ ที่มีส่วนร่วมในลีกไปถึง 39 ประตู ยิง 24 จ่าย 15 ประสานงานกับ โดมินิคโซโบสไล และหลุยส์ ดิอาซ โดยมี ดีโอโก้โชต้า เป็นหน้าเป้า

สถิติการเจอกัน 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ ดีกว่า ชนะ 2 เสมอ 2 และลิเวอร์พูล ชนะ 1อย่างไรก็ตาม “หงส์แดง” ไม่เคยบุกมาชนะที่ เอติฮัต ได้เลยนับตั้งแต่ปี 10 เมษายน 2018 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศเลกสอง วันนั้นบุกเฉือนได้ 2-1

ถ้านับเฉพาะในลีกที่บุกชนะซิตี้ หนสุดท้ายเกิดขึ้น 21 พฤศจิกายน 2015 ตอนนั้นบุกไปทุบได้ 4-1 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังไม่มา กุนซือในตอนนั้นคือ มานูเอล เปเญกรินี่
และเป็นการคุมทีมปีแรกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เท่ากับ เป๊บ ไม่เคยแพ้ให้ ลิเวอร์พูล ในบ้านสำหรับการเล่นเกมลีก ส่วนสถิติการเจอกับ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด 23 ครั้งในทุกรายการ ชนะ 7 เสมอ 7 แพ้ 9 ขณะที่นัดแรกที่แอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-0 จากโคดี้ กัคโป และจุดโทษของ โม ซาลาห์

ผู้ตัดสินในเกมนี้คือ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จาก แมนเชสเตอร์ ผู้ควบคุม VAR คือ สจ๊วร์ต แอตเวลล์ จาก วอร์วิคเชอร์ ในมิดแลนด์ โดย สถิติของ เทย์เลอร์ ในการตัดสิน ลิเวอร์พูล 65 เกม ในทุกรายการ ชนะ 35 เสมอ 20 และแพ้ 10 เคยตัดสิน ลิเวอร์พูล พบ แมนฯซิตี้ 5 ครั้ง แมนฯซิตี้ ชนะ 2 เสมอ 2 และลิเวอร์พูล ชนะ 1 เกิดขึ้นในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เฉือน 1-0 จากประตูชัยของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล