เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) และ “นโปเลียนลูกหนัง” มิเชล พลาตินี่ ตำนานลูกหนังฝรั่งเศส กลับมาขึ้นศาลอีกครั้งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อต่อสู้หลังจากเผชิญข้อกล่าวหาฉ้อโกง จนต้องระเห็จออกจากวงการฟุตบอล

ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาด หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า ปี 2022 ทั้งคู่ได้รับการตัดสินให้พ้นผิดจากคดีการจ่ายเงิน 2 ล้านฟรังก์สวิส (1.6 ล้านปอนด์) ให้กับ พลาตินี่ ที่ได้รับอนุมัติจากแบล็ตเตอร์ในปี 2011

ทั้งสองคนปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่า การโอนดังกล่าวเป็นการเงินค้างจ่ายของ พลาตินี่ ซึ่งเกิดจากบัญชีฟีฟ่า ที่จ่ายเงินค่าที่ปรึกษาล่าช้า ในยุคที่ พลาตินี่ ที่ดำรงค์ตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า

อย่างไรก็ตาม อัยการสหพันธ์สวิสได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว โดยการพิจารณาคดีใหม่ จะเกิดขึ้นภายในวันพฤหัสบดีนี้ และจะมีคำตัดสินในวันที่ 25 มีนาคมที่จะถึงนี้

ทั้งคู่ปรากฏตัวต่อศาลอุทธรณ์ในเมืองมุตเทนซ์ ใกล้เมืองบาเซิล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แบล็ตเตอร์ วัย 88 ปี ยืนยันว่า ตนนั้นคือผู้บริสุทธิ์ โดยระบุว่า เมื่อคุณพูดถึงความเท็จ, การโกหก และการหลอกลวง นั่นไม่ใช่ผม มันไม่เคยมีในตลอดชีวิตของผม

ทางด้าน ทนายความของ พลาตินี่ื วัย 69 ปี กล่าวว่า ศาลชั้นต้นที่ตัดสินให้ทั้งคู่พ้นผิดในปี 2022 นั้น ถูกต้องแล้วที่พบว่าการจ่ายเงิน 2 ล้านฟรังก์ ซึ่งเป็นข้อโต้แย้งไปทั้งโลกนั้น คือสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 อัยการ กล่าวหาว่า ทั้งคู่หลอกลวงฟีฟ่าเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้กับ พลาตินี่

ในคำให้การในการพิจารณาคดีครั้งแรก แบล็ตเตอร์ กล่าวว่า เขาขอให้พลาตินี่ ทำงานเป็นที่ปรึกษาของเขาในปี 1998 เขากล่าวเสริมว่าในเวลานั้น ฟีฟ่าไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี 1 ล้านฟรังก์สวิส ตามที่ พลาตินี่ ขอได้

พวกเขาตกลงกันว่าจะจ่ายบางส่วนแทน และส่วนที่เหลือจะจ่ายในภายหลัง พลาตินี่ กล่าวในระหว่างการพิจารณาคดีว่า "ผมไว้ใจตัวของ แบล็ตเตอร์ และรู้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะจ่ายเงินให้ผม"

เขาหยุดทำงานให้กับ ฟีฟ่า ในปี 2002 แต่ในตอนแรกไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งจ่ายเงินดังกล่าว เนื่องจากเขาบอกกับศาลว่าเขาไม่ต้องการเงินในเวลานั้น และเป็นช่วงเวลาที่ แบล็ตเตอร์ บอกว่า ฟีฟ่า มีเงินที่ไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม 2011 พลาตินี่ รู้สึกว่าเขาควรที่จะส่งใบแจ้งหนี้เพื่อรับเงินจำนวนดังกล่าวได้ และสุดท้ายเงินก็ได้รับการจ่าย หลังจากที่ แบล็ตเตอร์ เซ็นอนุมัติ

แต่หลังจากการสอบสวนที่เริ่มขึ้นในปี 2015 อัยการของสวิสได้กล่าวหาว่า แบล็ตเตอร์ กับ พลาตินี่ ปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงเงินจำนวนนี้

ฟีฟ่า ได้สั่งแบนทั้งสองคนจากวงการฟุตบอลด้วยข้อกล่าวหาละเมิดจริยธรรม ซึ่งเดิมทีสั่งห้ามเป็นระยะเวลา 8 ปี แต่ต่อมาก็ได้รับการลดโทษลง

ในปี 2022 ศาลอาญาของรัฐบาลกลางสวิตเซอร์แลนด์ ในเมืองเบลลินโซนา ตัดสินให้ทั้งสองคนพ้นผิด หลังจากยอมรับคำให้การของทั้งคู่เกี่ยวกับ "ข้อตกลงสุภาพบุรุษ" สำหรับการชำระเงิน

แบล็ตเตอร์ นั้น เป็นนักธุรกิจและผู้บริหารด้านกีฬาชาวสวิสเข้าร่วมฟีฟ่าในปี 1975 ดำรงตำแหน่งเลขาธิการในปี 1981 จากนั้นจึงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของโลกลูกหนัง ในปี 1998

เขาอยู่ในตำแหน่งนี้เป็นเวลา 17 ปี จนกระทั่งลาออกท่ามกลางการสอบสวนเรื่องการทุจริต ต่อมา พลาตินีก็ถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานคนใหม่

สำหรับ พลาตินี่ มีอาชีพนักเตะที่โด่งดังและโดดเด่นเป็นอย่างมาก เมื่อประสบความสำเร็จ รับรางวัลบัลลงดอร์ ถึง 3 สมัย

เขาเป็นกัปตันทีมฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์ยูโร 1984 และคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1985 ร่วมกับยูเวนตุส จากนั้นเขาก็ไปคุมทีมชาติฝรั่งเศส และได้เป็นประธานยูฟ่า ในปี 2007

เวลาผ่านไป สิ่งที่กู้กลับมาได้แต่ก็ยากเหลือเกินก็คือ ชื่อเสียง

ส่วนที่กู้ยังไงก็ไม่ผ่านก็คือ สังขาร นั่นเอง..............

#บีแหลมสิงห์™️✍