การเดินทางของฟุตบอลนั้นยาวไกลเหลือเชื่อ และเป็นกีฬาที่หลายมองว่า “มันเป็นอมตะ”
จริงเท็จประการใดไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ฟุตบอลในยุคใหม่มันเยอะมาก โปรแกรมถี่ยิบ และคุณภาพฝีเท้านักบอลเริ่มน้อยกว่าคุณภาพร่างกาย
กระทั่งเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นร้อนให้วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งว่า ฟุตบอลโลก 2030 ซึ่งเป็นบอลโลกครบ 100 ปี จะเพิ่มทีมอีกครั้งเป็น 64 ทีม
เหมาะสมหรือไม่อย่างไร
เนื่องจากฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมีขึ้นในปีหน้า ก็เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มทีมจากเดิม 32 ทีม มาเป็น 48 ทีม
แค่นี้ก็ด่ากันเละแล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อมีข่าวนี้ออกมา ทำให้หลายคนหล่นความคิดเห็นที่ว่า “บอลไทยมีโอกาสไปบอลโลก” มากน้อยแค่ไหนนั้น ก็คงจะต้องมาพิจารณากันอีกที เพราะเมื่อโควตาเพิ่มขึ้น โอกาสก็งอกงามตามขึ้นมาด้วย แต่ถามว่า เวลานี้ 18 ทีมสุดท้ายการคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
ทีมชาติไทยก็ยังไม่ติดโผ
สิ่งที่ต้องทำมีอีกมากมายนัก ตั้งแต่รากหญ้ายันรากเหง้าทัศนคติระดับทอดยาวตั้งแต่เยาวชนไปจนผู้บริหาร คือเครื่องหมายคำถามมากมาย เพราะเราได้ยินทุกครั้งที่ ฟีฟ่า เพิ่มโควตาให้เอเชียทีไร เราก็ฝันไกลทุกครั้ง
ก่อนจะฝันไกลไปเกินกว่าเหตุ ก่อนนอน เราควรคำนึงถึงคุณภาพที่ดีของวัฏจักรลูกหนังไทยกันก่อนจะเหมาะสมกว่า......
l ยุติแนวคิดบอลโลก 2 ปีครั้งก่อนเพิ่มทีม
หลังจากถูกสังคายนาบอร์ดบริหารยกใหญ่ “ฟีฟ่า” ถึงยุค “ปลาเปลี่ยนน้ำ” มีแผนการที่ “น่าตกใจ” มากกว่า“น่าสนใจ” นั่นคือ จานนี่ อินฟานติโน่ ผู้นำฟีฟ่า เสนอแผนการจัดฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทุกๆ 2 ปี แทนการแข่งขันทุกๆ 4 ปีตามเดิม โดย อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตบอสใหญ่อาร์เซน่อล ในฐานะ Head of Global Development เป็นผู้นำเสนอ
อย่างไรก็ตาม มีเสียงด่ามากกว่าเสียงชม
ท้ายที่สุดการเข้าสู่วาระการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2022 ก่อนบอลโลก กาตาร์ จะเริ่มประมาณ 6 เดือน ปรากฏว่า แผนดังกล่าวก็พับไป หลังไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมโบล) ซึ่งถือเป็น“ขาใหญ่”
อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน บอสยูฟ่า คัดค้านสุดตัว โดยบอกว่า เป็นการกระทำที่นอกจากจะลิ่มทิ่มประตูแล้ว ยังคิดหาทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน จนถึงขั้นจะบอยคอตต์
แน่นอนว่า การแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวของ เซเฟริน ทำให้หลายคนต้องยกธงยอมใจ และมีเหตุผลที่ดีในการไม่สนับสนุน เพราะทุกอย่างแย่หมดยกเว้นเรื่องรายได้ แม้ว่า สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และ สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา (ซีเอเอฟ) จะแสดงท่าทีเห็นชอบก็ตาม
จากนั้นเมื่อบอลโลก 2022 จบลง อินฟานติโน่ เปรยว่าเขามีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนการแข่งขันฟุตบอลโลก อีกครั้ง จากเดิมทุกๆ 4 ปี มาเป็นทุกๆ 3 ปี ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวที่จะปฏิวัติวงการฟุตบอล
อินฟานติโน่ นำเรื่อง “รายได้” มานำเสนออีกทีว่า บอลโลก 2022 มีรายได้มากถึง 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 220,000 ล้านบาท เพิ่มจากบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ถึง 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คาดกันว่า บอลโลก 3 ปีครั้งจะเกิดขึ้นหลังจากปี 2030 เนื่องจากการเจรจาระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างปี 2024-2030 ได้ข้อสรุปที่เหมาะสมไปแล้ว
l จาก 32 เป็น 48 ในบอลโลก 2026
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 23 ที่จะเตะในปี 2026 ที่ทวีปอเมริกาเหนือ นับเป็นครั้งแรกด้วยที่เจ้าภาพจะมีเกิน2 แห่ง โดยจัดที่ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก เเละ แคนาดา เป็นเจ้าภาพร่วมกัน 3 ประเทศ
ฟีฟ่า ได้เพิ่มทีมเข้าเเข่งขันจากเดิม 32 ทีม เป็น 48 ทีมเท่ากับว่าจากเดิม 64 เเมทช์ ไปเป็น 104 เเมทช์ ตลอดทัวร์นาเมนท์ โดยเเข่งมาราธอนถึง 39 วัน จากเดิมที่เเข่งเฉลี่ยคือ 1 เดือน แถมครั้งล่าสุดเตะเเค่ 28 วัน ที่กาตาร์
รูปเเบบการดวลแข้งตามที่ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า เคาะออกมาจะเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม นำเเชมป์เเละรองเเชมป์ของเเต่ละกลุ่ม รวม 24 ทีม ผ่านเข้ารอบต่อไปบวกกับอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 8 ทีม มาเตะรอบน็อกเอาท์32 ทีม จากนั้นไล่เรียงไป 16 ทีม, 8 ทีม, 4 ทีม และนัดชิงชนะเลิศ
ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จะต้องเล่นจากเดิม 7 นัด จะเพิ่มเป็น 8 เกม
ข้อดีสุดๆ คงไม่พ้นการที่ ฟีฟ่า จะรับทรัพย์อู้ฟู่จากลิขสิทธิ์มหาศาลเฉียดไปถึงระดับ 10,000 ล้านปอนด์ หรือระดับ 450,000 ล้านบาท(สี่แสนห้าหมื่นล้านบาท)
ข้อดีอีกข้อก็คือ หลายทีมมีโอกาสเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายมากยิ่งขึ้น แต่มันก็ต้องแลกข้อเสียเรื่องของความเข้มขลัง, สภาพร่างกายนักเตะ และแมทช์ที่มันเยอะจนเอียน
คนชอบบอลอย่างผม(ที่อาจจะเลยการชอบจนเรียกว่า บ้า) ยังรับรู้ได้ถึงความอืดยิ่งกว่ามาม่าต้มลืม
แต่ถามว่า ดูหรือไม่นั้น.....ดูแน่นอน เพราะ 4 ปีก่อนยังดูสดตั้ง 62 เกม!!!!!
l ยังไม่ทัน 48 กำลังจะไปถึง 64 จริงหรือ
ทีนี้ความแรงยังไม่หยุด เมื่อมีประเด็นว่า ฟีฟ่า เตรียมพิจารณาเพิ่มทีมในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2030 เป็น 64 ทีมเพื่อฉลองวาระพิเศษครบรอบ 100 ปี
เอาเข้าจริงการมีเจ้าภาพร่วมถึง 6 ประเทศ 3 ทวีป ประกอบด้วย อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย, โมร็อกโก, โปรตุเกส และสเปน ก็รุงรังพออยู่แล้ว
จากการประชุมฟีฟ่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมาอิ๊กนาซิโอ อลอนโซ่ ประธานสมาคมฟุตบอลอุรุกวัย 1 ใน 3 ประเทศเจ้าภาพจากอเมริกาใต้ ซึ่งว่ากันถึงบรรดาศักดิ์แล้ว พวกเขาคือชาติแรกที่จัดบอลโลก
อิ๊กนาซิโอ เสนอว่า ควรเพิ่มทีมเป็น 64 ทีมเพราะไหนๆ ก็เตะครบ 100 ปีแล้ว จัดหนักๆ ไปเลยจะดีกว่ามั้ย
โฆษกของฟีฟ่า ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มีข้อเสนอให้พิจารณาเพิ่มทีม ซึ่งพอมีสมาชิกมานำแนวคิด ก็จะนำไปพิจารณา เพราะปกติแล้วฟีฟ่าก็มีหน้าที่นำข้อเสนอจากสมาชิกมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้
ดังนั้นยังไม่มีการคอนเฟิร์มหรือยืนยันแต่อย่างใด
เมื่อเรานึกถึง ฟุตบอลโลกปี 2030 หากเพิ่มเป็น 64 ทีมทัวร์นาเมนท์มีความเป็นไปได้ที่จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า “เดือนครึ่ง” ในการแข่งขัน
ในยุคใหม่ไม่เคยมีเหมือนกันจะเตะกันยาวนานขั้นนี้ กระทั่งโอลิมปิกเกมส์ ยังไม่เกิน 3 สัปดาห์
เมื่อพิจารณากันแล้ว โอกาสเป็นไปได้หรือไม่นั้นตอบเลยว่า มี!!!!! เนื่องจากโลกปัจจุบันนี้อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนทั้งนั้น หากมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เหรียญมีสองด้าน แต่ละที่มีสองฝ่ายอยู่แล้ว ด้งนั้น ความวุ่นวายในการจัดเจ้าภาพถึง 6 ประเทศมันก็มากพออยู่แล้ว
ผมเชื่อว่า ฟีฟ่าคงไม่ทำอะไรเบ๊อะบ๊ะ แบบไม่คิดหน้าหลังอย่างแน่นอน
เอ๊ะ.....หรือว่าคิดหนอ อินฟานติโน่!!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี