การแข่งขันเพื่อเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการกีฬาโลก เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว โดยสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่เวลานี้อยู่ในประเทศกรีซ จะเลือกประธานคนใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013

ผู้ชนะจะเข้ามาแทนที่ “บิ๊กแมลง” โธมัส บัค และกลายเป็นบุคคลคนที่ 10 ที่จะดำรงตำแหน่งสูงสุดในวงการกีฬา โดยจะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 8 ปีด้วยกัน

IOC ได้เลือกโรงแรมหรูในรีสอร์ทริมทะเลอันหรูหราของ คอสต้า นาวาริโน่ ซึ่งอยู่ห่างจากโอลิมเปียไปทางใต้ประมาณ 60 ไมล์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณ เป็นการประชุมครั้งที่ 144

ที่นี่มีสนามกอล์ฟ 4 แห่งที่สามารถมองเห็นทะเลไอโอเนียน พร้อมด้วยสระว่ายน้ำ, สปา และร้านอาหารมากมาย ทำให้คอมเพล็กซ์แห่งนี้เป็นฉากหลังอันผ่อนคลายสำหรับการลงคะแนนเสียง แต่ด้วยผู้สมัครทั้งหมดยังคงพยายามหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกด้วยกัน บรรยากาศจึงตึงเครียดก่อนการเลือกตั้ง IOC

บางคนเรียกว่าเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

องค์กรหลักของโลกอย่าง IOC ซึ่งประกอบด้วยบุคคลสำคัญในอดีต, นักกีฬา และบุคคลสำคัญจากวงการกฎหมาย, การเมือง และภาคธุรกิจ จะลงคะแนนลับทางอิเล็กทรอนิกส์ในเวลาประมาณ 14:00 น. ตามมาตรฐานของกรีนิช ตรงกับบ้านเรา 21.00 น. โดยสมาชิกแต่ละคนจะลงคะแนนคนละ 1 เสียงต่อรอบ

ในกระบวนการอันน่าสนใจซึ่งถูกเปรียบเทียบกับวิธีที่พระคาร์ดินัลเลือกพระสันตปาปาองค์ใหม่ สมาชิกของ IOC จะต้องเก็บโทรศัพท์ของตนก่อนเข้าไปในห้องประชุม และเพื่อนร่วมชาติของผู้สมัครจะไม่สามารถลงคะแนนได้จนกว่าบุคคลนั้นจะถูกคัดออกจากกระบวนการ

โดยรวมแล้ว สมาชิก 106 คนจากทั้งหมด 109 คนที่เข้าร่วม และผู้สมัครจะต้องได้คะแนนเสียงข้างมาก (มากกว่า 50%) จึงจะชนะ หากไม่มีใครทำได้ในรอบแรก ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงน้อยที่สุดจะถูกคัดออก และจะจัดรอบอื่นๆ ต่อไปจนกว่าจะมีผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงข้างมาก

ว่ากันว่า นี่คือ การแข่งขันที่ถือว่าสูสีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 131 ปีของ IOC ผู้ที่ทราบข่าววงในส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการลงคะแนนเสียงหลายรอบ

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากกระบวนการหาเสียงที่ถูกมองว่าบางส่วน “ไม่โปร่งใส” ซึ่งจำกัดให้ผู้สมัครมีเวลานำเสนอผลงานเพียง 15 นาทีในงานส่วนตัวเมื่อเดือนมกราคม โดยห้ามไม่ให้สื่อเข้าร่วม และไม่มีช่องทางให้สมาชิกถามคำถามหลังจากนั้น เนื่องจากไม่มีการรับรองจากสมาชิก และไม่ได้รับอนุญาตให้วิพากษ์วิจารณ์ผู้สมัครคู่แข่ง

ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับการล็อบบี้เป็นอย่างมาก และไม่สามารถตัดผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้ออกไปได้

ผู้สมัครครั้งนี้มีถึง 7 คน โดยก่อนหน้านี้มีการเสนอชื่อของ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เข้าร่วมชิงตำแหน่งด้วย แต่คุณหญิงที่ได้รับฉายาจากสื่อต่างประเทศว่า “โอลิมปิก ควีน” ตัดสินใจไม่ลงสมัคร

ผู้สมัครเริ่มจาก ลอร์ด เซบาสเตียน โค ชาวอังกฤษ เป็นผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นที่สุด หากนับในเรื่องของการเป็นนักกีฬา เพราะเป็นแชมป์วิ่ง 1500 เมตรโอลิมปิก 2 สมัย

โค วัย 68 ปีผู้นี้เคยดูแลการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอน 2012 ก่อนที่จะรับหน้าที่ดูแลกรีฑาโลก และกำลังเสนอตัวเป็นประธาน IOC คนแรกในอังกฤษ

คนที่ 2 อดีตนักกีฬาโอลิมปิกอีกคนหนึ่งในผู้สมัครคือนักว่ายน้ำชื่อ เคิร์สตี โคเวนทรี ซึ่งเคยได้รับเหรียญทอง 2 เหรียญโอลิมปิก เธอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของซิมบับเววัย 41 ปี ซึ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงคนแรก, เป็นชาวแอฟริกันคนแรก และบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ดำรงตำแหน่งนี้

คนที่ 3 คือ ฆวน อันโตนิโอ ซามารานช์ “ซาลิซาชส์​“ นักธุรกิจชาวสเปนวัย 65 ปี ซึ่งเป็นรองประธานของ IOC เขาเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ IOC เช่นเดียวกับ โคเวนทรี และกำลังพยายามเดินตามรอยเท้าของพ่อของเขา ก็คือ ฆวน อันโตนิโอ ซามารานช์ “โตเรลโล่”​ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานตั้งแต่ปี 1980 ถึง 2001 และจะเป็นประวัติศาสตร์ตระกูลที่พ่อกับลูกได้ครองตำแหน่ง

คนที่ 4 คือ นักธุรกิจชาวสวีเดนและประธานสหพันธ์สกี โจฮัน เอเลียช

คนที่ 5 คือ โมรินาริ วาตานาเบะ ประธานสหพันธ์ยิมนาสติกสากลของญี่ปุ่น

คนที่ 6 คือ เดวิด แลปปาร์เตียน ประธานสหพันธ์จักรยานฝรั่งเศส

และคนที่ 7 เจ้าชายไฟซาล อัล-ฮุสเซนแห่งจอร์แดน เป็นผู้เข้าชิงคนอื่นๆ

- 006