ช่วงนี้ถึงเวลาที่การแข่งขันฟุตบอลลีกทั่วโลก ต้องพักเบรกเพื่อหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติที่หวนกลับมาเตะอีกครั้ง หลังหยุดยาวไป 4 เดือน บรรดานักเตะก็แยกย้ายกันไปรับใช้ชาติ ไปกันกันว่าฟีฟ่า เดย์ เดือนนี้ แต่ละทวีปทำอะไรกันบ้าง
● ยุโรป
ทวีปนี้เน้นไปที่ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024-25 ที่ผ่านพ้นรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการจับสลากประกบคู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศออกมา ซึ่งฟีฟ่า เดย์ เดือนนี้จะลงเล่น 2 เกมแบบเหย้า-เยือน เลกแรกวันพฤหัสบดีที่ 20 และ เลกสอง วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม
“กระทิงดุ” สเปน แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ จะต้องดวลกับ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ โดย สเปน ชุดนี้มีการเรียกนักเตะจาก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด มาติดทีมเพียงรายเดียวเท่านั้นคือ ราอูลอเซนซิโอ้ ปราการหลังดาวรุ่งที่ฟอร์มมีชื่อติดทีมเป็นหนแรก
ส่วน “ตราไก่” ฝรั่งเศส จะรีแมทช์เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการพบกับ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย ทั้งสองทีมยังใช้กุนซือคนเดิมคือ ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ และชลัตโก้ ดาลิช แต่ขุมกำลังถือว่าเปลี่ยนแปลงไปเยอะตามกาลเวลา
ขณะที่ “ฝอยทอง” โปรตุเกส นำทัพโดย คริสติอาโน่โรนัลโด้ สตาร์ดังค้างฟ้าในวัย 40 ปี เตรียมลงเล่นเกมที่ 218 ในนามทีมชาติดวลกับ “โคนม” เดนมาร์ก ที่เปลี่ยนกุนซือจาก แคสเปอร์ ยูลมันด์ มาเป็นไบรอัน รีเมอร์ เรียกตัว มิก้า บีเร็ธ หัวหอกวัย 22 ปี อดีตเด็กปั้นของ อาร์เซน่อล ที่ฟอร์มแรงสร้างสถิติยิงแฮททริก 3 ครั้ง ในการลงเล่นลีก เอิง ฝรั่งเศส เพียง 7 เกมกับ โมนาโก ติดทีมเป็นหนแรก
ปิดท้ายด้วยการปะทะกันรีแมทช์นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี สายเลือดใหม่ที่น่าเสียดายชุดนี้ไม่มี โพลเรียน เวีร์ตซ์ จะดวลกับ อิตาลี ของ ลูเซียโน่สปัลเล็ตติ
นอกจากนี้ในบรรดาลีกรองๆ ของ เนชั่นส์ ลีก จะมีการเพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้น อาทิ เบลเยียม จะพบกับ ยูเครนรวมไปถึง ตุรกี ปะทะ ฮังการี
ส่วนทีมที่ไม่มีโปรแกรมเพลย์ออฟพวกเขาจะลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนยุโรป “สิงโตคำราม”ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล จะได้ประเดิมการทำงานเกมแรกเล่นในบ้านทั้งสองนัดรับ แอลเบเนีย และลัตเวีย ในวันที่ 21 และ 24 มีนาคม
● อเมริกาใต้
แดนละตินเข้าสู่แมทช์เดย์ที่ 13 และ 14 ของฟุตบอลโลก2026 รอบคัดเลือก สถานการณ์ในปัจจุบัน “ฟ้า-ขาว”อาร์เจนตินา ทีมแชมป์โลกสมัยล่าสุดยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี25 คะแนน จากการลงเล่น 12 เกม
ชุดนี้ไม่มี ลีโอเนล เมสซี่ ที่บาดเจ็บต้องถอนตัวจากทีมในการไปเยือน อันดับ 2 อย่าง “จอมโหด” อุรุกวัย ที่มอนเตวิเดโอหากคว้าชัยช่องว่างจะห่างเป็น 8 คะแนนทันที อีกเกมจะได้กลับมาเฝ้ารังที่ บัวโนส ไอเรส รับ “แซมบ้า” บราซิล ที่รั้งอันดับ 5
บราซิล ถือว่าเจอโปรแกรมหนักนอกจากจะดวลกับ อาร์เจนตินา แล้ว พวกเขายังต้องเล่นในบ้านพบกับ โคลอมเบีย ด้วย
อย่างไรก็ตามทวีปอเมริกาใต้ ได้โควตาไปเล่นในรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติถึง 6 ทีม ส่วนอันดับ 7 ยังได้ไปเพลย์ออฟอีกเท่ากับว่า 10 ทีมในโซนนี้จะมีผู้อกหักเพียงแค่ 3 ชาติเท่านั้น ปัจจุบัน 3 ทีมท้ายตารางคือ เวเนซุเอลา, ชิลี และเปรู
● เอเชีย
โปรแกรมหลักยังคงเป็นฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกรอบ 3 ที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ จากทั้งหมด 18 ทีม ตอนนี้ผ่านพ้นมาแล้ว 6 เกม
กลุ่ม เอ/“นักรบเปอร์เซีย” อิหร่าน ยังผลงานยอดเยี่ยม 6 เกม ชนะ 5 เสมอ 1 มี 16 คะแนน การันตีอย่างน้อยได้เล่นรอบ 4 หรือรอบเพลย์ออฟของโซนเอเชีย มีโปรแกรมเฝ้ารังทั้ง 2 เกม รับอันดับ 3 อย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรองจ่าฝูงอย่างอุซเบกิสถาน
กลุ่ม บี/“โสมขาว” เกาหลีใต้ ภายใต้การคุมทีมของฮอง เมียง โบ อยู่ในดงอาหรับ แต่เหนือกว่าแบบชัดเจนยังไม่แพ้ใครชนะ 4 เสมอ 2 มี 14 คะแนน นำจ่าฝูงของกลุ่ม ชุดนี้ไม่มีคิม มิน-แจ แนวรับร่างยักษ์จาก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่บาดเจ็บจะได้เล่นในบ้าน 2 เกม ดวลกับ โอมาน และจอร์แดน
กลุ่ม ซี /“ซามูไร บลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ผลงานร้อนแรงเหมือนกันอิหร่านในกลุ่มเอ ชนะ 5 เสมอ 1 ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐาน การันตีอย่างน้อยได้เล่นรอบ 4 หรือรอบเพลย์ออฟของโซนเอเชีย ทีมของ ฮาจิเมะ โมรึยาสึ จะเฝ้ารัง 2 เกม พบกับบาห์เรน และซาอุดีอาระเบีย
● แอฟริกา
แต่ละเกมลงเล่นกันไปทีมละ 4 เกม สถานการณ์ของทีมยักษ์ใหญ่อย่าง “มัมมี่” อียิปต์ นำจ่าฝูงของกลุ่มเอ 4 เกม ชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 คะแนน เดือนนี้มีโปรแกรมลงเล่น 2 เกม ไปเยือนเอธิโอเปีย และเฝ้ารังดวลกับ เซียร์ร่า ลีโอน
ทีมอื่นๆ อย่าง เซเนกัล, แคเมอรูน, โมร็อกโก, ไอวอรี่โคสต์, แอลจีเรีย, ตูนิเซีย และกาน่า สถานการณ์ ถือว่าดี ยกเว้น “อินทรีมรกต” ไนจีเรีย ที่ต้องดูใจกันหน่อย เพราะลงเล่นไป4 เกม ในกลุ่ม บี ยังไม่ชนะใคร เสมอ 3 แพ้ 1 รั้งรองบ๊วย แต่ยังไม่หมดโอกาส เพราะถือว่าคู่คี่สูสี
● คอนคาเคฟ
โซนนี้ยังไม่ถึงคิวลงเล่นในรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลก ทำให้เดือนนี้ยังเป็นโปรแกรมคอนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีก 2025ที่เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ เล่นกันที่ แคลิฟอร์เนีย แบบนัดเดียวจบ
“พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา จะดวลกับ “ตนขุดคลอง” ปานามา และ “จังโก้” เม็กซิโก พบกับ “เมเปิ้ล” แคนาดาในวันที่ 20 มีนาคม ผู้ชนะจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้ไปชิงอันดับสาม เล่นวันที่ 23 มีนาคม ทั้ง 2 เกม
● โอเชียเนีย
ปิดท้ายด้วยโซนทวีปโอเชียเนีย กลุ่มประเทศและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดือนนี้จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
ตัวเต็งอย่าง “ออลไวท์” นิวซีแลนด์ จะพบกับ ฟิจิ อีกคู่คือ นิว คาเลโดเนีย ดวลกับ ตาฮิติ ในวันที่ 21 มีนาคม ผู้ชนะจะผ่านเข้าไปเล่นรองชิงชนะเลิศในวันที่ 24 มีนาคม แชมป์จะได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 แบบอัตโนมัติ ส่วนรองแชมป์จะได้ไปยืนรองในรอบเพลย์ออฟ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี