บาร์เซโลน่า กับเกมพลิกนรกสุดขั้วที่แอตเลติโก มาดริด ทำให้พวกเขาถือความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์
ในช่วงนี้ฟุตบอลลีกทั่วโลกต้องหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป กำลังเข้มข้นแบบสุดๆ เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการลุ้นแชมป์
● พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ผ่านพ้นไปแล้ว 29 เกม ก่อนพักเบรกทีมชาติเดือนมีนาคม 2025 สถานการณ์ลุ้นแชมป์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นผู้นำมี 70 คะแนน จากการชนะ 21 เสมอ 7 แพ้ 1
โดยผู้ตามอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้เปิดบ้านเฉือน “สิงห์บลูส์” เชลซี 1-0 ขยับช่องว่างจาก 15 มาเหลือ 12 คะแนน พร้อมกับลงเล่นเท่ากัน
มองจากตัวเลขโอกาสเข้าวินของ ลิเวอร์พูล ถือว่ามีสูงมาก อย่างไรก็ตามในโลกของฟุตบอลอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้
เมื่อทีม “หงส์แดง” กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก ภายในสัปดาห์เดียว พวกเขาต้องยุติเส้นทางการลุ้นแชมป์ถึง 2 รายการ เริ่มจากตกรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังพ่ายการดวลจุดโทษให้กับ ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง และต่อด้วยการพ่ายให้กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-2 ในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ
หลังพักเบรกทีมชาติ อาร์เซน่อล จะได้ลงเล่นก่อนในคืนวันอังคารที่ 1 เมษายน ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ รับการมาเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ส่วน ลิเวอร์พูล ลงเล่นในวันต่อมา ทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ด้วยการเปิดแอนฟิลด์รับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน
ฝั่งของการลุ้นพื้นที่ยุโรปถือว่าสนุก อันดับ 3 ในตอนนี้คือ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ฉลองการคุมทีมนัดที่ 50 ด้วยการบุกอัด “ม้าขาว” อิปสวิช ทาวน์ 4-2 ทำให้ตอนนี้มี 54 คะแนน นำอันดับ 4 อย่าง เชลซี อยู่ถึง 5 แต้ม
ส่วน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้แค่เสมอกับ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน 2-2 รั้งอันดับ 5 มี 48 คะแนน โดยมี นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ไล่ตามมาติด 47 คะแนน และยังมีเกมในมือมากกว่าพวกเขา 1 นัดด้วย
ขณะที่การลุ้นหนีตกชั้น “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน แทบจะหมดสิทธิ์รอด เพราะผ่านไป 29 เกม พวกเขามีแค่ 9 คะแนนเท่านั้น รั้งบ๊วยของตาราง ขยับขึ้นมาคือ สเตอร์ ซิตี้ และอิปสวิชทาวน์ ที่มี 17 คะแนนเท่านั้น ตามหลัง โซนปลอดภัยอย่างวูล์ฟแฮมป์ตัน อยู่ถึง 9 คะแนน
โดยกลางสัปดาห์หลังพักเบรกทีมชาติ เซาแธมป์ตัน จะเปิดบ้านพบกับ คริสตัล พาเลซ ส่วน อิปสวิช ทาวน์ ต้องไปเยือนเอเอฟซี บอร์นมัธ และเลสเตอร์ ซิตี้ ไปเยือน แมนฯซิตี้
สำหรับผู้นำดาวซัลโวและแอสซิสต์ในเวลานี้ยังคงเป็นโมฮาเหม็ด ซาลาห์ จาก ลิเวอร์พูล ที่ซัดไปแล้ว 27 ประตู และ 17 แอสซิสต์ ตามมาห่างๆ คือ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ 21 ประตู
อาร์เน่อ สล็อต กับโอกาสคุมทัพปีแรกและคว้าแชมป์ได้ทันทีกับแชมป์พรีเมียร์ลีก ในอีก 9 เกมที่เหลือ และนำอยู่ถึง 12 คะแนน
● บุนเดสลีกา เยอรมนี
ผ่านแมทช์เดย์ที่ 26 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่องว่างในตารางคะแนนถูกกระชับให้เหลือ 6 แต้ม หลัง “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค ทำได้เพียงบุกไปเสมอกับ อูนิโอน เบอร์ลิน 1-1 มี 62 คะแนน
“ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พลิกนรกบุกไปเฉือน “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท แบบสุดดราม่า 4-3 โดนนำ 2-0 และ 3-1 แต่มาได้ 2 ประตูพลิกแซงเอาชนะในช่วงท้ายเกม ตีเสมอนาทีที่ 88 และมาได้ประตูชัยมาจาก แพทริค ชีค คนเดิมในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4
ทำให้มีเพิ่มเป็นเป็น 56 คะแนน เหลือโปรแกรมลงเล่นอีก 8 เกม
“ในท้ายที่สุดช่วงเวลามหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นกับเราอีกครั้ง มันมีความหมายมาก ส่งผลต่อความรู้สึกในสู้ต่อ เป็นชัยชนะที่มีความสำคัญ ยังมีอีก 8 เกมให้ลงเล่น เราโฟกัสไปทีละเกมพยายามคว้าชัยชนะให้ได้ มันไม่ได้อยู่ในมือของเรา แต่เราพร้อมจะสู้จนสุดทาง” อลอนโซ่ กล่าว
การลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปยังคงเข้มข้น ไมนซ์ 05 มีสะดุดเสมอกับ ไฟรบวร์ก 2-2 ทำให้โดน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ที่บุกถล่ม โบคุ่ม 3-1 ไล่ตามมามี 45 คะแนนเท่ากัน แต่น้องไมนซ์ยังรั้งอันดับ 3 ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า
ทางฝั่ง แอร์เบ ไลป์ซิก เปิดบ้านอัด “เสือเหลือง” โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ไป 2-0 ด้วยรูปเกมที่ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้ เพราะโดนบุกยับตลอดทั้งเกม ทีมดังจากแคว้นรูห์รสร้างโอกาสได้ถึง 25 ครั้ง แบ่งเป็นช็อตที่ควรได้ประตู 8 หน แต่ก็ยิงนกตกปลาออกไปเอง ไม่ได้สักประตู ตอนนี้ ไลป์ซิก ขึ้นมารั้งอันดับ 5 มี 42 คะแนน
ฝั่ง ดอร์ทมุนด์ ต้องลุ้นหนักเพราะหลุดไปรั้งอันดับ 11 มี 35 คะแนน แต่ทีมของ นิโก้ โควัช ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นถ้วยใหญ่ยุโรป หลังหลุดเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ต้องดวลกับของแข็งอย่าง บาร์เซโลน่า
ส่วนการหนีตกชั้นยังลุ้นกันสนุก สัปดาห์นี้ทีมท้ายตารางตัดกันเอง ไฮเดนไฮม์ เอาชนะ โฮลสไตน์ คีล 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 19 คะแนน ขยับจากบ๊วยขึ้นมารั้งอันดับ 16 (พื้นที่เพลย์ออฟ) ส่งผู้แพ้อย่าง โฮลสไตน์ คีล ลงไปกองก้นตารางแทน
● ลาลีกา สเปน
มีดราม่าเกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมทช์ส่งท้ายพักเบรกทีมชาติ เมื่อ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด เปิดบ้านพ่ายให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า 2-4 ทั้งที่พวกเขาขึ้นนำก่อน 2-0 จาก ฮูเลี่ยนอัลบาเรซ และอเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ และเหลือเวลาอีก20 นาที เท่านั้น
แต่ทว่าพวกเขาไม่สามารถรักษาสกอร์ได้ เขื่อนแตกโดนผู้มาเยือนรัว 4 เม็ดรวด กลับมาพ่าย 2-4 ทำให้พวกเขามี 56 คะแนน
“ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับบาร์เซโลน่าพวกเขามีความเด็ดขาดในช่วงเวลาที่สำคัญ ได้ประตูตีไข่แตกอย่างรวดเร็วหลังโดนนำ 2-0 นั่นทำให้พวกเขามีแรงฮึดและสามารถกลับมาได้ เราเองไม่เฉียบคมพอในเกมสวนกลับ” เอล โชโล่ กล่าว
“ผมเคยพูดไปแล้วว่า บาร์ซ่า คือทีมที่ดีที่สุด นอกจากการเล่นเป็นทีมที่ลงตัวแล้ว นักเตะหลายๆ คน ยังมีความสามารถเฉพาะตัวในระดับท็อป”
บาร์ซ่า เก็บเพิ่มเป็น 60 แต้ม เท่ากับ เรอัล มาดริด ที่บุกเฉือน “เรือดำน้ำสีเหลือง” บีญาร์เรอัล 2-1 จากสองประตูของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่เฮดทูเฮดและลูกได้เสียดีกว่า กลับมานำจ่าฝูงของตาราง และยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หอกโปลในวัย 36 ปี ซัดไปแล้ว35 ประตู จากการลงเล่น 40 เกมในทุกรายการ
ขณะที่ อองตวน กรีซมันน์ ลงเล่นลาลีกา สเปน เกมที่ 520 จาก 3 สโมสร (เรอัล โซเซียดัด, บาร์เซโลน่า และแอต มาดริด) ทาบสถิติผู้เล่นต่างชาติที่ลงสนามในลีกกระทิงมากที่สุดเทียบเท่ากับ ลีโอเนล เมสซี่
ส่วนการลุ้นหนีตกชั้น เรอัล บาญาโดลิด รั้งบ๊วยของตารางมี 16 คะแนน จากการลงเล่น 28 เกม โอกาสยากแล้ว เพราะตามหลังโซนปลอดภัยถึง 11 คะแนน ขยับขึ้นมาคือ ลาส พัลมาส 25 คะแนน และเลกาเนส 27 คะแนน
เลเวอร์คูเซ่น ได้ประตูสุดระทึกในช่วงทดเจ็บ ชนะ สตุ๊ตการ์ท 4-3 ทำให้ล่า บาเยิร์น เหลือ 6 แต้ม
● กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
29 เกมผ่านไป “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน คว้าชัยในเกมสำคัญด้วยการบุกไปเอาชนะ อตาลันต้า ที่แบร์กาโม่ 2-0 ได้ประตูในช่วงครึ่งหลังจาก คาร์ลอส ออกุสโต้ และเลาตาโร่ มาร์ติเนซ
กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการฉีกหนี นาโปลี ที่ทำได้เพียงบุกไปเสมอกับ เวเนเซีย จากโซนท้ายตาราง 0-0
ตอนนี้ อินเตอร์ มิลาน เก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนนนำจ่าฝูง มีนาโปลีตามมา 61 คะแนน ส่วนอตาลันต้า หยุดอยู่ที่ 58 คะแนน
“ผมพอใจฟอร์มในสนามของลูกทีมมากกว่าผมการแข่งขันเสียอีก เรามาเยือน แบร์กาโม่ ด้วยความมั่นใจ ทำได้ดีตลอดทั้งเกมที่สำคัญเราไม่เสียประตูให้กับพวกเขา อตาลันต้า ทีมที่มีเกมรุกแข็งแกร่งยิงได้ถึง 63 ประตู วันนี้เรากลับออกมาด้วยคลีนชีต” อินซากี้ กล่าว
“ม้าลาย” ยูเวนตุส อาการหนักบุกไปพ่าย “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า ที่อาร์เตมิโอ้ ฟรังคี่ 0-3 ส่งผลให้ “ทัพเบียงโคเนรี่” พ่ายคู่แข่ง 2 เกมติด ด้วยการเสียอย่างน้อย 3 ประตู เป็นครั้งที่ 3ในประวัติศาสตร์ของสโมสร (เกมที่แล้วพ่ายคาบ้าน อตาลันต้า 0-4) หล่นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง
อย่างไรก็ตาม คริสเตียโน่ จุนโตลี่ ผู้อำนวยการกีฬาของยูเวนตุสยังเชื่อมั่นว่า ติอาโก้ ม็อตต้า จะสามารถพาทีมฝ่าวิกฤตไปได้ ไม่มีความคิดที่จะปลดออกจากตำแหน่ง ตัวของ ม็อตต้า เองก็พร้อมสู้ไม่คิดลาออกเช่นกัน
“มันง่ายเกินไปที่จะทำแบบนั้น และผมไม่ชอบการหนีปัญหาง่ายๆ แบบนี้ เราต้องการชัยชนะเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดเพื่อบรรลุเป้าหมาย คือการจบท็อปโฟร์ของลีก” ม็อตต้า กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่าหากผลงานของ ยูเวนตุส ยังไม่ฟื้นหรือไม่สามารถจบอันดับ 4 ในตามเป้า ติอาโก้ ม็อตต้า อาจจะไม่ได้ไปต่อโดยมี ชาบี เอร์นานเดซ ที่ประกาศกร้าวหวนรับงานโค้ชในฤดูกาลหน้า เป็นตัวเต็งพร้อมเสียบอยู่
ทางฝั่ง “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน คว้าชัยด้วยการเฉือน โคโม่ 2-1 ไฮไลท์สำคัญคือการกลับมาลงเล่นครั้งแรกในรอบ 2 ปีของ เดเล่ อัลลี่ อดีตแนวรุกอนาคตไกลของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
อัลลี่ ถูกส่งลงสำรองนาทีที่ 81 แต่ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามใน 10 นาทีต่อมา หลังไปทำฟาวล์จากด้านหลังใส่เพื่อนร่วมชาติอย่าง รูเบน ลอฟตัส-ชีค
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ มอนซ่า ยังคงรั้งอันดับบ๊วยของตารางมี 15 คะแนน ตามหลัง ปาร์ม่า ในพื้นที่ปลอดภัยอยู่ 10 คะแนน อันดับ 19 คือ เวเนเซีย มี 20 คะแนน และเอ็มโปลี อันดับ 18 มี 22 คะแนน
● ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ลงเล่นมา 26 เกม เหลืออีก 8 นัด สถานการณ์ลุ้นแชมป์ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ นำโด่งมี 68 คะแนน ด้วยผลงานที่ยังไม่แพ้ใคร ชนะ 21 เสมอ 5 หลังเอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-1 ในเกมดาร์บี้แมทช์ของประเทศ ทำให้ช่องว่างในตอนนี้มีแต้มนำคู่แข่งถึง 19 คะแนนเลยทีเดียว เรียกได้โอกาสเข้าป้ายค่อนข้างแบเบอร์
ส่งผลให้โฟกัสมาอยู่ที่การลุ้นพื้นที่ยุโรปที่ยังสนุกเพราะคะแนนใกล้เคียงกัน โอลิมปิก มาร์กเซย มี 49 คะแนน ตามด้วย โมนาโก 47 คะแนน เท่ากับ นีซ อันดับ 5 คือ โอลิมปิก ลียง 45 คะแนน ตามมาด้วย ลีลล์ 44 คะแนน
ส่วนการลุ้นหนีตกชั้น มงต์เปลลิเย่ร์ เหนื่อยหนักมี 15 คะแนนตามหลังโซนปลอดภัยถึง 8 แต้ม ขยับขึ้นมาคือ แซงต์ เอเตียน 20 คะแนน และเลอ อาร์ฟ 21 คะแนน โดยในลีก เอิง อันดับ 16จะได้สิทธิ์ในการเพลย์ออฟ กับทีมลีก เดอซ์
สำหรับการลุ้นดาวซัลโวผู้นำในตอนนี้คือ อุสมาน เดมเบเล่ จาก ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ที่เปลี่ยนบทบาทจากริมเส้นสู่หน้าเป้ากดไปแล้ว 21 ประตู ตามมาด้วย เมสัน กรีนวู้ด จากโอลิมปิก มาร์กเซย 15 ประตู และโจนาธาน เดวิด จากลีลล์ 14 ประตู
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี