ไปบอลโลก :“ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา ระเบิดฟอร์มสุดยอดไล่ถล่มทีมชาติบราซิลคู่ปรับตลอดกาล 4-1 ตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

“ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา แชมป์โลก 3 สมัย และแชมป์เก่าระเบิดฟอร์มสุดยอดไล่ถล่มทีมชาติบราซิลคู่ปรับตลอดกาลร่วมถิ่นละตินอเมริกาขาดกระจุย 4-1 ตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

ก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นขุนพลฟ้า-ขาวได้รับข่าวดีเมื่อได้สิทธิ์เข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีหน้าอย่างเป็นทางการหลังจาก โบลิเวีย เสมอกับ อุรุกวัย 0-0 ทำให้พวกเขามีแต้มเพียงพอต่อการเข้ารอบไปแล้ว

จากนั้นก็ลงการแข่งขันจริงก็เดินหน้าไล่ทะลวงไส้บราซิลโดยนำก่อนอย่างรวดเร็ว 2-0 จากการยิงของ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ นาทีที่ 4 และเอ็นโซ่ นาทีที่ 12 ก่อนที่ มาเตอุส คุณญา ตีไข่แตกให้แซมบ้า นาทีที่ 26 แต่มาโดน อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ยิงนำ 3-1 นาทีที่ 37 และปิดท้ายด้วย จูเลียโน่ ซิเมโอเน่ นาทีที่ 71 จบเกมสกอร์ขาดลอย 4-1 นับเป็นครั้งแรกที่อาร์เจนตินาชนะบราซิลได้ทั้งไปทั้งกลับในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนับตั้งแต่โซนนี้แข่งขันแบบพบกันหมดเริ่มต้นมาเมื่อปี 1998

โซนอเมริกาใต้ ผ่านการคัดเลือกไปทั้งหมด 14 นัดปรากฏว่าอาร์เจนตินานำจ่าฝูงมีอยู่ทั้งสิ้น 31 คะแนนส่วนบราซิล หล่นไปอยู่ที่ 4 มี 21 คะแนนตามเดิม

สำหรับฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ทีมผ่านเข้าไปเล่นแล้วทั้งสิ้น 7 ทีมด้วยกันประกอบด้วย 3 ทีมเจ้าภาพนั่นคือสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา โดยอีก 4 ทีม ที่ผ่านจากการคัดเลือกเรียบร้อยคือ ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, อิหร่าน
และอาร์เจนตินา

ซึ่ง อิหร่าน ได้สิทธิ์เป็นทีมที่ 6 หลังจากไล่ตามตีเสมอ อุซเบกิสถาน 2-2 ในการดวลแข้งรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่ือวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการดวลแข้งโซนเอเชีย รอบ 3 กลุ่มเอ อิหร่าน เล่นในอซาดี้สเตเดี้ยม ในกรุงเตหะราน ไล่ตามตีเสมอ อุซเบกิสถาน สองครั้งสองครา ก่อนจบลงด้วยผลเสมอ

ทำให้ อิหร่าน ทำแต้มนำจ่าฝูง ด้วยการเตะ 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 2 ไม่แพ้ใคร มี 20 คะแนน จึงกลายเป็นชาติที่ 6 ที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกปี 2026 และพวกเขาบุ๊กตั๋วสู่รอบสุดท้ายตลอดกาลได้เป็นสมัยที่ 7 และ 4 สมัยติดต่อกัน

ทางด้าน ฟุตบอลโลก โซนแอฟริกา ซึ่งปีนี้ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้าย 9+1 โดยแบ่งรอบคัดเลือกออกเป็น 9 กลุ่ม นำแชมป์กลุ่มเข้ารอบทันที และรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 ทีม มาเตะเพลย์ออฟเพื่อหา 1 ทีม ไปเล่นเพลย์ออฟรอบโลก หรือ Inter-confederation play-offs

เวลานี้ แอลจีเรีย, อียิปต์ และโมร็อกโก เปิดประตูสู่การผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ ซูดาน ที่จะไปบอลโลกหนแรก ดันพลาดท่าเสียถูกทีมที่แยกแผ่นดินไปอย่าง “เซาธ์ ซูดาน” ตีเสมอในนาทีที่90+8 ทำให้พวกเขาต้องลุ้นหนักมาก

กลุ่มเอ “มัมมี่” อียิปต์ เตะ 6 นัด ชนะ 5 ยังไม่แพ้มี 16 แต้มนำ บูร์กินา ฟาโซ ที่นั่งโซฟาอยู่อันดับ 2 อยู่ 5 คะแนน โดยเกมล่าสุด อียิปต์ กำชัยเหนือ เซียร์ราลีโอน 1-0 จากประตูของซิโซ่ นาทีที่ 45+3

กลุ่ม บี ซูดาน ซึ่งถูกบังคับให้เล่นเกมเหย้าทั้งหมดที่สนามกลาง อันเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองยังคงดำเนินต่อไปในประเทศ ออกนำนาทีที่ 77 แต่เสียประตูให้กับ เซาธ์ ซูดาน ในนาทีที่ 98 และหล่นไปอยู่อันดับที่ 3 และเป็น ดีอาร์ คองโก นำเป็นจ่าฝูงหลังจากเอาชนะ มอริเตเนีย 2-0 โดย “เสือดาว” มีคะแนนนำทั้งเซเนกัลและซูดานอยู่ 1 คะแนน

กลุ่มซี แอฟริกาใต้ ขยับไปมี 13 คะแนน นำ รวันด้า 5 แต้ม เมื่อบุกไปชนะ เบนิส 2-0 ในการเตะสนามกลางที่โกติวัวร์ ซึ่ง รวันด้า พลาดท่าเสมอในบ้าน เสียประตูท้ายเกมให้กับ เลโซโธ ทำให้ผลจบ 1-1 โดยที่ ไนจีเรีย เสี่ยงที่จะพลาดตั๋วหลังจากเสมอกับซิมบับเว 1-1 เมื่อโดนตีเสมอนาทีที่ 90 ทำให้ “ซูเปอร์อีเกิ้ลส์” ตามหลัง แอฟริกาใต้ ถึง 6 แต้ม และเหลืออีก4 นัด

กลุ่มดี “หมอผี” แคเมอรูน ได้ ไบรอัน เอ็มบูโม กองหน้าของเบรนท์ฟอร์ด ยิง 1 ประตูและจ่ายบอล 1 ประตู ช่วยให้ แคเมอรูน เอาชนะ ลิเบียไปได้ 3-1 ยังคงตามหลัง กาบูเวร์ดีอยู่ 1 แต้ม

กลุ่มอี โมร็อกโก มีแต้มนำห่างถึง 9 แต้ม หลังจากเอาชนะ แทนซาเนีย 2-0 แต่ตารางคะแนนในกลุ่มนี้รุงรังแน่นอน โดย โมร็อกโก มี 15 แต้มเต็มจาก 5 เกม ที่เหลือเตะไปทีมละ 4 นัด ไนเจอร์ กับ แทนซาเนีย มีทีมละ 6 แต้ม และแซมเบีย 3 แต้ม

ประเด็นคือ คองโก ถูกระงับสิทธิ์การแข่งขันเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 เนื่องจากการแทรกแซงของรัฐบาลต่อการดำเนินงานของสหพันธ์ฟุตบอลคองโก ในขณะที่ยังไม่มีการประกาศเกี่ยวกับสถานะของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์โดยยกเลิกการแข่งขันที่เหลือหลังจากลงไป 3 นัด ส่วน เอริเทรีย ถอนตัวจากการแข่งขันตั้งแต่เริ่ม เพราะเกิดจากความกังวลว่าผู้เล่นจะขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง หากได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ

กลุ่มเอฟ บี้กันมันหยดระหว่าง โกตดิวัวร์ ที่มี 16 คะแนนกับ กาบอง ที่มี 15 คะแนน โดย “ช้างดำ” โกตดิวัวร์ เฉือน แกมเบีย 1-0 จาก เซบาสเตียน อัลแลร์ ขณะที่ กาบองได้สองประตูจาก ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง บุกชนะ เคนยา 1-0

กลุ่มจี แอลจีเรีย ขยับหนี โมซัมบิก ไปเป็น 3 คะแนน ด้วยการได้ฟอร์มของ โมฮัมเหม็ด อามูรา ทำแฮททริกในชัยชนะ 5-1 ซึ่งทั้งสองทีมเจอกันเอง ที่โฮซีน ไอท์ อาเหม็ด สเตเดี้ยม บ้านของ “จิ้งจอกเขียว”

กลุ่มเอช ตูนิเซีย เร่งเครื่องยิงสองประตูในช่วง 4 นาทีสุดท้าย เอาชนะ มาลาวี 2-0 ขณะที่้ นามีเบีย เสียแต้มในบ้านเมื่อโดน เอควอทอเรียล กีนี ตามตีเสมอ 1-1 ทำให้ ตูนิเซียมี 16 แต้ม หนี นามีเบีย 4 คะแนน

กลุ่มไอ กานา ได้ฟอร์มของ 2 แข้งพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะโตมาส ปาเตย์ ยิงสองประตู และโมฮัมเหม็ด คูดุส บุกชนะ มาดากัสการ์ 3-0 ในการเตะที่โมร็อกโก แต่ โคโมโรส ยังไม่ยอมเมื่อชนะ ชาด 1-0 ก็ไล่จี้กานาเหลือ 3 แต้ม ในสนามกลางที่เบอร์คาเน่ ในโมร็อกโก เช่นกัน

การแข่งขันฟีฟ่าเดย์ ครั้งต่อไปจะตัดสินว่า ใครจะผ่านเข้ารอบ โดย 4 นัดสุดท้ายจะเตะเดือนกันยายนและตุลาคม โดยกำหนดการแข่งขันเพลย์ออฟของแอฟริกา จะเล่นในเดือนพฤศจิกายนนี้