หลังจากที่ “กระทิงเปลี่ยว” อาร์เบ ไลป์ซิก ประกาศปลด มาร์โก โรเซ่อ ออกจากตำแหน่งกุนซือ หลังพ่ายให้กับ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 0-1 ในบุนเดสลีกา และแต่งตั้ง โซลต์ เลิฟ คุมทีมชั่วคราว

โรส วัย 48 ปี จำใจอำลาตำแหน่งกุนซือไลป์ซิก หลังอยู่กับทีมมา 2 ปีครึ่ง ซึ่งรั้งอันดับ 6 ในตารางบุนเดสลีกา

โดย เลิฟ ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับ “พี่สอง” โธมัส ทูเคิล ทั้งที่เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค และปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้ามาแทนที่ โรส จนจบฤดูกาล

ฟอร์มหลังของ ไลป์ซิก ย่ำแย่สุด ๆ เพราะชนะมาเพียงแค่ 3 นัดจาก 11 นัดหลังสุดในบุนเดสลีกา แต่ตามหลังพื้นที่โควตาแชมเปี้ยนส์ลีกเพียง 3 แต้ม โดยยังเหลืออีก 7 นัด ซึ่งพวกเขายังจะลงเล่นในรอบรองชนะเลิศของศึกเดเอฟเบ โพคาล ในวันพุธนี้ กับ สตุ๊ตการ์ท

ทางด้าน เยอร์เก้น คล็อปป์ อดีตบอสใหญ่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปัจจุบันทำงานให้กับกลุ่มเรดบูลล์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลระดับโลก ถูกจับโยงในเรื่องนี้อีกครั้งว่า จะเข้ามาทำงานกู้สถานการณ์ทีม แต่เวลานี้ฝ่ายบริหารของ เรดบูล ยังคงไม่พูดคุยถึงสถานการณ์ดังกล่าวนี้

คล็อปป์ กล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า "ผมจะไม่รับหน้าที่เป็นโค้ชให้กับทีมเรดบูล ทุกสโมสรอย่างแน่นอน แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่แน่นอนจะเกิดขึ้นก็ตาม”

BBC สื่อชั้นนำของโลกสัญชาติอังกฤษ ระบุว่า สถานการณ์ของ ไลป์ซิก หมิ่นเหม่ต่อการไม่ได้ไปเล่นถ้วยใหญ่ หรือ แชมเปี้ยนส์ลีกในซีซั่นหน้า นั่นหมายความว่า พวกเขาอาจจะต้องสูญเงินมหาศาลในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 8 นัด เท่ากับว่า เป็นช่วงเวลาวัดใจว่า คล็อปป์ จะตัดสินใจลงมาช่วยทีมหรือไม่

ขณะที่ มาร์เซล ชาเฟอร์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายกีฬาของไลป์ซิก กล่าวว่า เราเชื่อมั่นในความร่วมมือของเรากับมาร์โก โรเซ่อ และทีมของเขามาเป็นเวลานาน และจนถึงตอนนี้ เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาด้วยกัน

“เมื่อพิจารณาถึงพัฒนาการและผลงานที่ยังไม่ลงตัว เราทุกคนมั่นใจอย่างยิ่งว่าเราจำเป็นต้องมีแรงผลักดันใหม่ๆ สำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเราในฤดูกาลนี้”

- 006