ภาพที่หลายคนบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้อดีตนักฟุตบอลของลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดฉลองชัยชนะร่วมกันที่อันดาลูเซีย!!!!

เอเดรียน กับ อันโตนี่ !!!!!

“ดาร์บี้แมทช์” ที่ได้รับการยกย่องว่า “คลาสสิกที่สุด” แห่งวงการฟุตบอลสเปน เหนือกว่าการต่อกรเกมการเมืองอย่าง “เอล กลาซิโก้”

เซบีญ่า ปะทะ เรอัล เบติส หรือที่เรียกว่า The Great Derby ที่ภาคภาษาสเปน เรียกว่า El Gran Derbi

เรอัล เบติส คว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นเกมที่ 6 ในลาลีกา และเอาชนะเซบีญ่า 2-1 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ เบติส สามารถคว้าชัยชนะติดต่อกันในลีกสูงสุดของสเปนได้มากขนาดนี้ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 โดยตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับ 5 ของตารางอย่างบียาร์เรอัลแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เบติส ยังชนะคู่ปรับได้หนแรกรอบ 12 เกมในบอลลีก นับตั้งแต่ 2 กันยายน 2018 โดย 12 เกมที่ผ่านมา เซบีญ่า ชนะ 7 เสมอ 5

ที่มาของแมทช์นี้ ผมเคยเขียนเอาไว้แล้ว และขอนำมาเสมออีกครั้งนะครับ.........

...ที่นี่คือ “อันดาลูเซีย” ดินแดนแห่งวัฒนธรรมผสมผสาน และเป็นดินแดนยุโรปที่ได้รับอิทธิพลจากความร้อนมากกว่าแห่งหนใดในทวีปนี้เลยก็ว่าได้

เป็นแคว้นที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในจำนวนแคว้นปกครองตนเอง 17 แห่ง ที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศสเปน

เมืองหลวงชื่อว่า เซบีญ่า หรือ เซวิลล์ นี่คือเมืองเก่าแก่ทางตอนใต้ของสเปน

ดินแดนเซบีย่า มีเหล้าเชอร์รี่ชั้นดี, การสู้วัวกระทิง, รวมทั้งการเต้นระบำฟลามิงโก ล้วนแล้วแต่อยู่ที่เมืองนี้

การผสมผสานเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เซวิลล์ ถูกก่อตั้งโดย ฟีนิเชียน(Phoenicians) จากนั้น โรมันก็มาครอบครอง ต่อด้วยกองทัพมุสลิมของชาวมัวร์ หรือ “แขกมัวร์” ที่เราคุ้นเคย ผสมกลิ่นอายของไอบีเรียที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่บนโลกที่เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกของส่วนผสมที่ลงตัว

อากาศที่นี่ร้อนก็จริง แต่เมื่อไหร่ก็ตาม หากมีเกมดาร์บี้แมทช์คู่นี้เกิดขึ้น อากาศจะร้อนกว่าเดิมอีกหลายเท่า!!!

ไม่ได้ชอบกัน...แต่ไม่เกลียดกัน...ไม่ตีกัน...แต่ต้องการชนะกันให้ได้...แค่นั้นแหละ แค่นั้นจริงๆ!!!

เป็นศึกดาร์บี้แมทช์ที่แบ่งปันความเร้าใจผ่านฟุตบอลกันมานานนับศตวรรษ

ชาวบริติช รวมตัวกันเตะฟุตบอล และก่อตั้งทีมฟุตบอลชื่อว่า เซบีญ่า เอฟซี ตามชื่อเมือง เมื่อปี 1890 ประธานคนแรกของพวกเขาคือ เอ็ดเวิร์ด ฟาร์การ์สัน เกิดที่สกอตแลนด์

จากนั้นสโมสรได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อ 14 ตุลาคม 1905

ขณะที่ เรอัล เบติส เกิดอย่างเป็นทางการในปี 1907 วันที่ 12 กันยายน หลังจาก เซบีญ่า เอฟซีลงทะเบียนได้ 2 ปี ชื่อว่า “เบติส บาลอมพีย์”

สโมสรมาจากการควบรวมของ เซบีญ่า บาลอมพีย์ ที่ตั้งขึ้นจากนักศึกษาโปลีเทคนิคประจำเมือง กับ เบติส เอฟซี ซึ่งทีมนี้ตั้งชื่อตามแม่น้ำกวาดัลกุยบีร์ (Guadalquivir) ที่ไหลผ่านตัวเมืองเซบีญ่านั่นเอง

คำว่า กวาดัลกุยบีร์ ชื่อในภาษาโรมัน คือ เบติส

จากนั้นในปี 1981 ได้มีการขอพระราชทานจากราชสำนักในยุคของกษัตริย์ “คิง อัลฟอนโซ ที่ 13” ก่อนที่พระองค์จะพระราชทานชื่อว่า “เรอัล (Real)”

จึงเป็นที่มาของคำว่า เรอัล เบติส บาลอมพีร์ (Real Betis Balompié) อย่างสมบูรณ์แบบ

เบติส จริงๆ แล้วเริ่มต้นด้วยเสื้อสีน้ำเงินสลับข่าว ก่อนจะมาใส่เสื้อสีขาวเขียว ก็เพราะ มานูเอลรามอส ผู้ที่เติบโตในอันดาลูเซีย ได้ไปเรียนที่ดัมฟรี่ส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์ และชอบไปดูเกมที่ กลาสโกว เซลติค ลงสนาม

ในช่วงที่ เบติส รวมทีมขึ้นมาใหม่ๆ มานูเอล รามอส มีโอกาสแนะนำทีมและนำเสื้อสีขาว-เขียว แบบเดียวกับเซลติคมาให้กับทีมซึ่งสีนี้สอดคล้องกับธงของอันดาลูเซีย จึงเป็นที่ยอมรับกันตั้งแต่บัดนั้น

การต่อกรของทั้งสองทีมไม่ต้องการจะแย่งแชมป์เหมือน“เอล กลาซิโก้” แต่ต้องการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ประจำเมืองนี้ ที่จะให้ทุกคนได้รู้ว่าฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่มีอยู่2 ลายเท่านั้น

ลายขาว-แดงของ เซบีญ่า และลายขาว-เขียวของ เรอัล เบติส

เซบีญ่า จะได้รับความนิยมในแฟนบอลฐานะดีมีกะตังค์ ส่วนเบติสเป็นขวัญใจของผู้ใช้แรงงาน

สลับกันแย่งชิงความสำเร็จของเมือง ขอแค่ใหญ่ในแคว้นนี้เมืองนี้ก็พอใจแล้ว!!!

ที่สำคัญก็คือทั้งคู่มีความบังเอิญแบบพอดีที่คล้ายๆ กัน

เซบีญ่า ก่อตั้งก่อน แต่ เรอัล เบติส ได้ขึ้นชั้นสู่ลีกสูงสุดก่อน

สลับคว้าแชมป์ เบติส ครองแชมป์ ลา ลีกา ปี 1935 เซบีญ่า เป็นแชมป์ ลา ลีกา ปี 1946

เซบีญ่า ได้แชมป์โกปา เดอ เรย์ ก่อนและได้แชมป์รวม 5 สมัย และสถิติที่ข่มมิดคือแชมป์ยูโรป้า คัพ 5 สมัย ส่วน เบติส ได้แชมป์โกปา เดอ เรย์ 2 สมัย

เคยประสบปัญหาล้มเหลวทางด้านการเงินเหมือนกัน

ชื่อสนามก็ใช้ชื่อของอดีตประธานสโมสรเหมือนกัน ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ของเซบีญ่า กับ เบนิโต้ บิญามาริน ของเรอัล เบติส

คู่นี้ไม่ได้ไล่ตีไล่ต่อยกัน แต่ก็ใช่ว่าจะ “ลงให้กัน”

ซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นรอยแผลฝากเอาไว้มากที่สุดก็คือ เบติส กำลังประสบปัญหาทางการเงินเมื่อปี 1945 แถมยังโดน เซบีญ่า มาพรากฟรานซิสโก้ อันตูนเยซ นักเตะคนสำคัญของทีมไปอีกต่างหาก

แฟนบอลเบติส โกรธแค้นการย้ายทีมหนนี้เป็นอย่างมาก นอกจากเกลียด เซบีญ่า ก็เลยพาลไปเกลียด อันตูนเยซ ไปด้วย

รักในรอยแค้นยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกเมื่อซีซั่นต่อมา เซบีญ่า ได้แชมป์ลา ลีกา มาครองซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์

เป็นชนวนแห่งการฟาดฟันกันตลอดกาลของ 2 ทีมแห่งเซวิลล์!!!!

#บีแหลมสิงห์

- 006