การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รายการ "2025 บิลลี จีน คิง คัพ บาย เกนบริดจ์" หรือศึก "บีเจเคซี" โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่มาลันจ์ เบลวาดี้ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ เนชั่นแนล เกมส์ ปาร์ค ที่เมืองปูเน่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ในรอบพบกันหมด แมทช์ที่สอง ซึ่งจบลงเมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. 2568

 ทีมไทย ซึ่งแมทช์แรกเอาชนะฮ่องกง 3-0 คู่ ลงสนามพบกับ เจ้าภาพ อินเดีย ซึ่งแมทช์แรกพ่ายนิวซีแลนด์ 1-2 คู่ โดยเปิดหัวด้วยประเภทเดี่ยวมือ 2 ไทยส่ง "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี มือ 170 ของโลก พบกับ ชริวัลลี ราชมิกา ภมิปาตี มือ 341 ของโลก ปรากฏว่า เซตแรก "รวงข้าว" พ่ายก่อน 2-6 เซตสอง ลัลนา ชิงความได้เปรียบเบรกเสิร์ฟสาวอินเดียตั้งแต่เกมแรก แต่พลาดโดนเบรกคืนในเกมที่ 8 ก่อนจะเสมอ 4-4 แม้ ลัลนา จะมาเซฟได้ถึง 4 แมทช์พอยท์ในเกมที่ 10 ซึ่งตนเองเสิร์ฟ แต่ก็ต้านไม่อยู่ สุดท้ายพ่าย 4-6 ทำให้ ลัลนา แพ้ไป 0-2 เซต 2-6, 4-6 ไทยตามหลัง 0-1 คู่

 จากนั้นคู่ที่สอง เดี่ยวมือ 1 "ไหม" มนัญชญา สว่างแก้ว มือ 110 ของโลก พบกับ สหจะ ยามาลาปัลลี มือ 316 ของโลก เซตแรก "ไหม" ถูกเบรกเสิร์ฟไปก่อน ตามหลัง 0-3 ทว่าเจ้าตัวกลับมาเล่นในเกมตัวเอง และเบรกเสิร์ฟสาวอินเดียได้ในเกมที่ 4, 7 และ 9 ชนะเซตแรก 6-3 เซตสอง เกมสูสี ต้องดวลกันถึงไทเบรก ก่อน "ไหม" พ่ายไทเบรก 3-7 ต้องเล่นเซตสาม มนัญชญา เบรกเกมเสิร์ฟคู่แข่งได้ตั้งแต่เกมแรก ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ในเกมเสิร์ฟสอง ขณะที่ "ไหม" นำ 30-0 นักกีฬาจากอินเดีย ได้ขอเทรนเนอร์เข้ามาดูอาการบาดเจ็บที่ต้นขา ซึ่งสุดท้ายก็เล่นต่อไม่ไหว ทำให้ "ไหม" ชนะไปด้วยสกอร์ 6-3, 6-7 ไทเบรก 3-7 และ 1-0 Ret. (รีไทร์) ทำให้ไทยตีเสมอเป็น 1-1 คู่

 คู่ที่สาม ประเภทหญิงคู่ "เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช มือคู่ 145 ของโลก และ "อีฟ" พัชรินทร์ ชีพชาญเดช มือคู่ 564 ของโลก ลงวัดฝีมือกับคู่จอมเก๋าของอินเดียอย่าง อันกิต้า ไรน่า มือคู่ 207 ของโลก กับ ปรัธนา ธอมบาเร มือคู่ 104 ของโลก ซึ่งผลปรากฏว่า สู้กันถึงเซตสาม และเป็นคู่สาวไทยที่แพ้ไป 1-2 เซต 6-7 ไทเบรก 3-7, 6-3 และซูเปอร์ไทเบรก 3-10 ส่งผลให้ ทีมไทยพ่ายอินเดียหวุดหวิด 1-2 คู่ จึงมีผลงานล่าสุด แข่ง 2 แมทช์ ชนะ 1 แพ้ 1

 ด้านผลอีก 2 คู่ที่แข่งขันพร้อมกัน นิวซีแลนด์ ชนะ เกาหลีใต้ 2-1 คู่ และฮ่องกง ชนะ ไต้หวัน 2-1 คู่ ทำให้หลังผ่านการแข่งขันไป 2 แมทช์ นิวซีแลนด์ นำเป็นอันดับ 1 จากการชนะ 2 แมทช์รวด ส่วนไทย, เกาหลีใต้ และ อินเดีย ชนะ 1 แพ้ 1 เท่ากัน แต่ไทยอยู่อันดับ 2 เนื่องจากจำนวนเซตได้-เสีย และเกมได้-เสีย ดีสุดในบรรดา 3 ทีม โดยเกาหลีใต้อยู่ที่ 3 และอินเดีย มาเป็นที่ 4

 
 "โค้ชเอ็กซ์" นายพชรพล คำสมาน ผู้ฝึกสอนและกัปตันทีมไทย กล่าวว่า ขอบคุณน้อง ๆ นักกีฬาทุกคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองกันได้อย่างเต็มที่ ทีมไทยได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว เพื่อจะเอาชนะให้ได้ โดยรวมแมทช์นี้ ถือเป็นเกมที่สนุกและดุเดือด แต่ด้วยความที่อินเดียแพ้มาในแมทช์แรกต่อนิวซีแลนด์ ทำให้นัดนี้กับไทยหลังพิงฝาเหมือนกัน จึงชิงจังหวะและความได้เปรียบได้ดีกว่าเรา โดยเฉพาะในประเภทหญิงคู่ ซึ่งเอาชนะเราได้ในช่วงการดวลไทเบรกทั้ง 2 เซต
 
"พวกเรายังเชื่อมั่นในตัวเอง ผมและท่านผู้จัดการทีมได้กำชับกับน้อง ๆ ว่า อยากให้ทุกคนพักผ่อนและดูแลตัวเองให้ดี เพราะยังมีอีก 3 แมทช์ที่เราต้องเล่น การชนะ 1 แพ้ 1 ไม่ถือว่าเสียหาย และประตูในการเข้ารอบของเรายังเปิดอยู่ ซึ่งต้องขอบคุณทุกกำลังใจ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ท่านผู้จัดการทีม แฟน ๆ ทางบ้านที่ติดตามชมและให้กำลังใจพวกเรา ซึ่งพวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในแมทช์ที่เหลืออยู่ สำหรับเกมต่อไป เราจะพบกับเกาหลีใต้ ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.นี้"

ทางด้าน "เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช นักหวดมากประสบการณ์ของทีมชาติไทย เปิดใจหลังเกมว่า ในแมทช์นี้ทั้งตนและอีฟ พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่วนตัวมองว่าเราเล่นได้ดีแล้ว แต่จังหวะเล็ก ๆ น้อย ๆ กลายเป็นอินเดียทำได้ดีกว่าเรา ทั้งช่วงไทเบรกเซตแรก หรือซูเปอร์ไทเบรกเซตสุดท้าย สำหรับอีฟกับตน ปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นด้วยกันเท่าไหร่ แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้มีโอกาสได้เล่นด้วยกัน ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย ซึ่งเราทั้งคู่พยายามจะช่วย ๆ กันในทุก ๆ ลูกทุก ๆ ช็อต และก็หวังว่าจะทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ หากได้รับโอกาสและความไว้วางใจในแมทช์ที่เหลืออยู่