เดือดก่อนดวล! 'ชุดขาว'ไล่กรรมการ-ยันพร้อมเตะบาร์ซ่า
การแข่งขันฟุตบอลโกปา เดล เรย์ ปีที่ 123 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นศึกเอล กลาซิโก้ ของสองยักษ์ใหญ่ในแดนกระทิงดุ เวลา: 03.00น.“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด 31 สมัย จะดวลกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์ 20 สมัย ที่เอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆ่า ในเมืองเซบีญ่า แคว้นอันดาลูเซีย
อย่างไรก็ตาม ก่อนเกมมีเรื่องรุงรังสุด ๆ เกิดขึ้น เมื่อมีข่าวออกมาว่าเรอัล มาดริด เรียกร้องให้สหพันธ์ฟุตบอลสเปน เปลี่ยนตัวผู้ตัดสิน พร้อมกับทำคลิปวีดีโอออกมา พร้อมทำคลิปออกทางช่องทีวีของสโมสรเพื่อเป็นการกดดันไม่ให้ ริคาร์โด้ เดอ บูร์โกส เบนโกเอตเซีย ที่้จะเป็นผู้ตัดสินเกมนี้ และปาโบล กอนซาเลซ ฟูเอร์เตส ผู้ควบคุม VAR ลงทำหน้าที่
ประเด็นนี้ ริคาร์โด้ เดอ บูร์โกส เบนโกเอตเซีย กลายเป็นผู้ตัดสินคนล่าสุดที่ถูกทีวีของเรอัลมาดริดโจมตีในฤดูกาลนี้ โดยวิดีโอของสโมสรที่เผยแพร่ออกมาทุกช่องทางของเรอัล ชี้ให้เห็นเปอร์เซ็นต์การชนะของบาร์ซ่าและเรอัล เมื่อผู้ตัดสินชาวสเปนรายนี้ เป็นผู้ทำหน้าที่ โดย เปอร์เซนต์ ชนะของ เรอัล มาดริด อยู่ที่ 64 เปอร์เซนต์ ขณะที่ บาร์ซ่า ชนะอยู่ที่ 81 เปอร์เซนต์ เมื่อ เดอ บูร์โกส เบนโกเอตเซีย ลงทำหน้าที่ตัดสินในเกมที่สองทีมนี้ลงสนาม
เดอ บูร์โกส เบนโกเอตเซีย เผยผ่านงานแถลงข่าวพร้อมหลั่งน้ำตาว่า "เมื่อลูกของคุณไปโรงเรียนแล้วมีเด็กๆ บอกว่าพ่อของเขาเป็น 'หัวขโมย' แล้วกลับบ้านมาร้องไห้ เรื่องนี้มันแย่มาก"
"สิ่งที่ผมทำคือพยายามสอนลูกชายให้รู้ว่าพ่อของเขาซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์เหนือสิ่งอื่นใด"
ขณะที่ ปาโบล กอนซาเลซ ฟูเอร์เตส ผู้ตัดสินวิดีโอช่วยเหลืออย่าง VAR ในนัดชิงชนะเลิศ ยังได้ออกมาพูดต่อหน้าสื่อของเรอัล มาดริดด้วยว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะต้องเริ่มใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกว่านี้มาก เราจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก เร็วๆ นี้ คุณจะได้ยินจากเรา เราจะสร้างประวัติศาสตร์ เพราะเราจะไม่ยอมทนกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญอีกต่อไป
ซึ่งในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ เดอ บูร์โกส เบนโกเอตเซีย กล่าวว่า สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ถูกต้อง เพื่อนร่วมงานหลายคน ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอลอาชีพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในระดับรากหญ้าด้วย ทุกคนควรไตร่ตรองว่าเราต้องการอะไรกันแน่ และเราต้องการอะไรจากกีฬาและฟุตบอล”
อดีตผู้ตัดสินชาวสเปนซึ่งเคยตัดสินในฟุตบอลระดับสโมสรและระดับนานาชาติของยูฟ่า เคยทำหน้าที่ตัดสินเกมเอล กลาซิโก้มาก่อน เมื่อ 20 มีนาคม 2023 ซึ่ง บารซ่า ชนะ 2-1
แชมป์ยุโรป 15 สมัย ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมก่อนเกมทั้งหมด โดยคว่ำบาตรการฝึกซ้อมและการแถลงข่าวแบบเปิด แต่ยืนยันว่า ยังไงก็จะลงสนามแข่งขันแน่นอน
สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) กล่าวว่า "เรอัล มาดริดบอกกับ RFEF ว่าจะไม่เข้าร่วมการแถลงข่าวหรือการฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ โดยตั้งหน้าตั้งตารอนัดชิงชนะเลิศ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
ขณะที่เรื่องดราม่าดำเนินไป เรอัล มาดริดได้ออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์ 2 ฉบับ โดยฉบับล่าสุดระบุว่า "จากข่าวลือที่ออกมาในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เรอัล มาดริด ซีเอฟ ขอประกาศอีกครั้งว่า เราจะลงแข่งขัน จะไม่ถอนตัว สโมสรของเราเข้าใจดีว่าคำกล่าวที่ไม่เหมาะสมของผู้ตัดสินที่ได้รับเลือกให้ลงเล่นในแมตช์นี้ แต่เป็นคนละเรื่องกับการลงแข่งขัน เนื่องจากการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่คนหลายร้อยล้านคนรอที่จะรับชมจะเสียหายได้ และเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อแฟนบอลทุกคนที่วางแผนจะเดินทางไปที่เซบีย่า รวมถึงผู้ที่อยู่ในเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซียแล้ว”
“เรอัล มาดริดเชื่อว่าค่านิยมของฟุตบอลต้องคงอยู่ต่อไป แม้ว่าผู้ตัดสินที่ได้รับเลือกให้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศจะแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์และเกลียดชังต่อสโมสรของเราอีกครั้งในวันนี้ก็ตาม”
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรอัล มาดริดได้ส่งจดหมายร้องเรียนอย่างเป็นทางการถึงสมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และสภากีฬาระดับสูงของสเปน โดยระบุว่าการตัดสินของสเปนนั้น “มีการทุจริต” และ “เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างสิ้นเชิง”
ซึ่งครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมแพ้เอสปันญอล 0-1 โดยประธานลาลีกา “ฮาเวียร์ เตบาส” กล่าวว่า เรอัล มาดริด ได้เสียสติไปแล้ว
ต่อมาในเดือนเดียวกันนั้น RFEF ก็ได้ออกมาประณามการ “เหยียดหยาม” ผู้ตัดสิน โฆเซ่ หลุยส์ มูนูเอรา มอนเตโร หลังจากที่เขาไล่จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางของเรอัล มาดริด ออกจากสนามในเกมกับโอซาซูน่า
ทางด้าน ฮันซี ฟลิค นายใหญ่บาร์เซโลน่า กล่าวว่า สำหรับผม มันเป็นเพียงกีฬา มันเป็นเพียงเกม มันเป็นเพียงฟุตบอล มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะปกป้องไม่เพียงแค่ผู้เล่นเท่านั้น แต่รวมถึงผู้คนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเกมด้วย
“มันไม่ดีเลยที่เกิดขึ้นในวันนี้ แน่นอนว่าบางครั้งในสนามมีการตัดสินใจบางอย่างที่เกี่ยวกับอารมณ์ แต่หลังการแข่งขัน เราควรจบเรื่องนี้ ด้วยการต้องทำอะไรสักอย่าง”
ทางด้านความพร้อมของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า เสียสถิติแพ้เกมแรกในการลงเล่นปี 2025 ให้กับ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนจะคืนฟอร์มเอาชนะในลีกเหนือ เซลต้า บีโก้ และเรอัล มาญอร์ก้า นำจ่าฝูงในลาลีกา สเปน เกมนี้ทีมของ ฮันซี่ ฟลิค จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกคนสำคัญที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง เช่นเดียวกับ อเลฮานโดร บัลเด้ แบ็คซ้ายที่ไม่ฟิต ที่เหลืออาจจะรอเช็คฟิตผู้เล่นบางราย แต่โดยรวมถือว่าอยู่ครบ
ฟลิค มาในระบบ 4-2-3-1 แฟรงกี้ เดอ ยองก์ คุมแดนกลางร่วมกับ เปดรี้ เกมรุกใช้ ลามีน ยามาล ประสานงานกับ เฟร์มิน โลเปซ และราฟินญ่า ส่วนหน้าเป้าเลือก เฟร์ราน ตอร์เรส โดยมี ดานี่ โอลโม่ และกาบี้ รอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง
ทางฝั่ง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ช่วงหลังฟอร์มฝืดเหลือเกิน แต่ยังเข็นตัวเองเอาชนะ 2 เกมลีกล่าสุดเหนือ แอธเลติก บิลเบา และเกตาเฟ่ ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 ทำให้ตอนนี้ตามหลังในลีกอยู่ 4 คะแนน ว่ากันว่าเกมนี้อาจจะเป็นการตัดสินอนาคตของ คาร์โล อันเชล็อตติ มือปืนอิตาเลี่ยนว่าจะอยู่หรือไปในฤดูกาลหน้า หลังสัญญาเข้าสู่ปีสุดท้าย
อย่างไรก็ตามเกมนี้เจอปัญหาให้ต้องปวดหัวเมื่อ ดาบิด อลาบา และเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า บาดเจ็บในเกมล่าสุด รายหลังเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณขาหนีบฉีกขาดต้องพัก 3 เดือน หมดสิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้ ทำให้ตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คซ้ายมีเพียง ฟราน การ์เซีย เท่านั้น ส่วน ดานี่ การ์บาฆาล, แฟร์กลองด์ เมนดี้ และเอแดร์ มิลิเตา เดี้ยงอยุ่แล้ว มาสู้ในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน ออเรเลียง ชูอาเมนี่ จะกลับมาคุมแดนกลางร่วมกับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ เกมรุกได้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ผ่านมาความฟิตลงปักหอก โดยมี โรดริโก้, จู๊ด เบลลิ่งแฮม และวินิซิอุส จูเนียร์ คอยสนับสนุน
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมทั้งหมด 302 เกมในทุกรายการ บาร์เซโลน่า ชนะ 127 เสมอ 64 และเรอัล มาดริด ชนะ 111 นับเฉพาะในรายการโกปา เดล เรย์ ทั้งหมด 37 ครั้ง ปรากฏว่า บาร์ซ่า ยังทำได้ดีกว่า ชนะ 16 เสมอ 8 และมาดริด ชนะ 13 ครั้ง
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) : วอยเซี๊ยค เชสนี่, ฌูลส์ คุนเด้, เปา กูบาร์ซี่, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เกราร์ด มาร์ติน, แฟรงกี้ เดอ ยองก์, เปดรี้, ลามีน ยามาล, เฟร์มิน โลเปซ, ราฟินญ่า และเฟร์ราน ตอร์เรส
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ตีโบต์ กูร์กตัวส์, ลูคัส บาซเกซ, ราอูล อเซนซิโอ้, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ฟราน การ์เซีย, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โรดริโก้, จู๊ด เบลลิ่งแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ และคีลิยัน เอ็มบัปเป้
สกอร์ที่คาด: บาร์เซโลน่า 2-1 เรอัล มาดริด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี